สิงหาคม 30th, 2010 at 6:28(เย็น)
จันทร์เอ๋ยเจ้าจันทร์ผา
ดอกเป็นพวงห้อยระย้าน่าหลงไหล
กลิ่นกรุ่นหอมล่องลอยไปแสนไกล
ช่อเล็กใหญ่ต่างอวดงามยามเบ่งบาน
หมู่ภมรต่างก็มาหาแต่เจ้า
ทุกค่ำเช้าดอมดมอมน้ำหวาน
สายลมแผ่วไผ่เอนไหวใจเบิกบาน
สกุณาขานเปล่งเสียงร้องก้องพนา
มองจันทร์ผาพาใจให้นึกหวน
คิดทบทวนความหลังครั้งเด็กหนา
เคยวิ่งเล่นหยอกเย้ากันตามคันนา
ยามเย็นค่ำแสงสุริยาลาลับไป
เคยล้อมวงทานข้าวเล่าความหลัง
เคยได้ฟังนิทานที่ขานไข
เคยหนุนตักนุ่มนุ่มชุ่มชื่นใจ
เคยมีมือคอยไล่ยุงที่มุ่งราวี
กาลเวลาเดินไปไม่คืนกลับ
มีแต่เดินล่วงลับตามวิถี
เหลือเพียงคำสอนกล่าวไม่กี่วลี
เป็นคนดีเถอะนะลูกปลูกในใจ
โปรดรักษาความดีไว้ในรุ่นหลัง
เปล่งสพรั่งงามเด่นเป็นศักดิ์ศรี
กลิ่นหอมไหนไม่เท่ากลิ่นความดี
ทุกนาทีงามสพรั่งดั่งจันทร์ผา…
กันยายน 24th, 2009 at 6:32(เย็น)
เบื้องหลังการถ่ายทำของพ่อครูบาฯ เพื่อให้ได้ภาพสวยๆ มาฝากพี่ป้าน้าอาทุกท่าน เิชิญชมตามอัธยาศัยครับ
กันยายน 17th, 2009 at 6:04(เย็น)
แสงแรกสุริยาปลายหน้าฝน
ช่างน่ายลส่องสว่างกลางไพรสัณห์
มีหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งอิงตะวัน
สร้างสีสันให้ป่างามยามรุ่งอรุณ
เสียงนกยูงเปล่งเสียงร้องอยู่ก้องป่า
เสียงนกกาเสียงไก่ต๊อกออกมาหนุน
หมูเหมยซานให้นมลูกอย่างชุลมุน
เสียงคุ้นคุ้นเป็ดเทศงัยเดินไล่กัน
แสงงดงามต้นไม้งามยามต้องแสง
แม้ลมแรงยังเริงร่าน่าสุขสันต์
เสียงลำไพ่ต่างเสียดสีอี๋อ๋อกัน
เป็นสีสันที่งดงามท่ามกลางพนา.
สิงหาคม 7th, 2009 at 11:09(เช้า)
เดือนหงาย ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๒๕ ให้ความหมายไว้ว่า
เดือนหงาย น. เรียกคืนที่ดวงจันทร์มีแสงสว่างมาก โดยปรกติหมายถึงคืนที่มีพระจันทร์เต็มดวง ว่า คืนเดือนหงาย
คืนเดือนหงาย เป็น ค่ำคืนที่แสนวิเศษ สำหรับมนุษย์ เพราะเป็นยามค่ำคืนที่พระจันทร์ส่องแสงสว่างมาสู่โลกกว้าง นึกถึงภาพกิจกรรมที่ทำในค่ำคืนเดือนหงาย เช่น
ชาวนา ทำการนวดข้าว/ตีข้าว ในคืนเดือนหงาย ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ลมแผ่วๆ ที่พัดโชยมา
เด็กๆ ชอบมากอย่างสงสัยว่าจะมีอะไรบ้างหนอ อยู่บนดวงจันทร์ ซึ่งก็ได้รับการบอกเล่าแตกต่างกันไป ตามแต่พื้นถิ่น เช่น มีกระต่ายบ้าง มีตากับยาย กำลังตำข้าว บ้าง
ที่เลือกตั้งชื่อว่า ลานเดือนหงาย เพื่อเป็นการขอบคุณธรรมชาติที่ให้แสงสว่างในท่ามกลางราตรีอันมืดมิด โดยที่ไม่ต้องเบียนเบียนธรรมชาติ เช่น น้ำมันตะเกียง ไฟฟ้า เทียน เป็นต้น แม้จะไม่สว่างเหมือนกลางวันก็ตาม
แสงนวลจันทร์ส่องสว่างกลางเวหา หมู่ดาราประกายแสงเพื่อแข่งขัน
อีกหิ่งห้อยก็ระรื่นสดชื่นกัน ต่างประชันเปล่งแสงแข่งจันทรา
สายลมพัดโบยโบกโยกไม้ไหว มองเห็นเงาแกว่งไกวสุขใจหนา
เสียงขลุ่ยแผ่วผ่านรัตติกาลซ่านอุรา อีกไม่นานแล้วหนาเหมันต์เยือน.
เมษายน 30th, 2009 at 10:01(เช้า)
ยินดีต้อนรับสู่ลานปัญญา
- ท่านได้สร้างบล็อกของท่านเองแล้วที่นี่
- บันทึกนี้เป็นข้อความทดสอบ
- ท่านสามารถเข้า Dashboard หรือ Site Admin เพื่อลบบันทึกนี้ออกได้
- ขอแนะนำให้ท่านเขียนบันทึกแนะนำตัวเอง เพื่อทำความรู้จักกับสมาชิกอื่นๆ
- คำแนะนำภาษาไทยอยู่ในบล็อกลานคู่มือบ้านลานปัญญา
ยินดีต้อนรับสู่ลานปัญญา