นิสิต SAR จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 58

อ่าน: 2788

นิสิตในสำนักงานคณะกรรมการศึกษาวิจัยทรัพยากรการเกษตร (SAR ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก OCARE) เป็นรุ่นที่สามที่มาส่วนป่า แต่เป็นรุ่นที่สี่ของคณะ (รหัส 56) ซึ่งประกอบไปด้วยนิสิต 48 คน อาจารย์ 4 ท่าน รวมท่านคณบดีด้วย และเจ้าหน้าที่อีก 1 ท่าน เป็นบัณฑิตรุ่น 1 ของ OCARE ซึ่งมาเยือนสวนป่าระหว่างวันที่ 5-7 มิย 58

วันแรก คณะเดินทางมาจากสระบุรี มาถึงแล้วพักรัปทานอาหาร ก่อนฟังครูบาคุยสักครู่ แล้วเริ่มเรียนกับผมเลยครับ คุยกันเรื่องการเรียนรู้ที่สวนป่า ซึ่งชวนสังเกตรื่องเกี่ยวกับชีวิต ไม่จัดเป็นวิชา ไม่มีหลักสูตร ต้องสังเกตและจับประเด็นเอาเอง เห็นไม่เหมือนกัน ได้ไม่เท่ากัน ก็ไม่เป็นไร แล้วเราก็คุยกันเรื่องความมั่นคงสามแนวทาง อาหาร น้ำ พลังงาน ทำไมจึงสำคัญแบบคอขาดบาดตาย คุยกันเรื่องไบโอชาร์ในฐานะของเครื่องมือปรับปรุงดิน กับเรื่องโซลาร์เซล อย่างละนิดหน่อย แล้วคุยเรื่องการเริ่มต้นออกไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ทำอย่างไรจึงจะเริ่มต้นได้ แล้วปล่อยกลับไปเก็บของเข้าที่พัก แล้วกินข้าวเย็นกัน… มีถอดบทเรียนกันเองทุกคืนหลังอาหารเย็นครับ

อ่านต่อ »


ค่ายสวนป่าฮา&เฮ กลุ่มหมู่บ้านพอ

อ่าน: 4064

ยอมรับครับว่าค่ายนี้ เป็นค่ายที่ผมรอคอยและมีความสุขมากที่ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

กลุ่มหมู่บ้านพอจัดตั้งขึ้นประมาณน้ำท่วมประเทศ ปี 2554 โดยคุณธนน รัตนบรรณกิจ (ปริ๊นซ์) มีหลักการที่คล้ายกับหมู่บ้านเฮ/หมู่บ้านโลกอย่างน่าประหลาด เราได้ตกลงกำหนดค่ายนี้เอาไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม 58 ว่าจะจัดระหว่างวันที่ 4-6 เมย 58 มีสมาชิกมาร่วมจากหลายจังหวัด (เลข โคราช ตราด กรุงเทพ) และมาขอมาร่วมจากเพชรบุรีด้วย รวมประมาณ 15 ท่าน

อ่านต่อ »


ค่ายสวนป่าฮา&เฮ ครั้งที่ 2

อ่าน: 4607

ค่ายนี้ ตั้งใจจะเพาะกล้าของคนปลูกต้นไม้

แรกเริ่มเดิมทีค่อนข้างสับสน มีสมาชิกจากค่ายแรกที่ติดกิจธุระไม่สามารถจะมาร่วมค่ายแรกได้ ขอย้ายมาค่ายนี้ แต่ค่ายที่สองก็มีสมาชิกจองมาเข้าอยู่แล้ว แม้บอกว่าเต็ม ก็ยังมีคนขอแทรกอยู่ตลอด สวนป่าไม่ใช่รีสอร์ตหรอกครับ มาเยอะเกินไป เราก็รับไม่ไหว

ค่ายครั้งที่สองนี้ ในที่สุดแล้วมากัน 22 ท่าน สำหรับโปรแกรมวันที่ 22-23 พย 57 โดยทยอยกันมาตั้งแต่บ่ายวันที่ 21 และประมาณครึ่งหนึ่งก็กลับในเช้าวันที่ 24

อ่านต่อ »


จำใจปฏิเสธ

อ่าน: 3345

อนุสนธิจากแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 5 พค 2557 เวลา 18:08น ความแรง 6.3 ตามมาตรฐานริกเตอร์ ลึกประมาณ 7 กม มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ อ.พาน จ.เชียงราย ราชการช่วยเหลือบ้านเรือนที่เสียหายหลังละสามหมื่นกว่าบาท แน่นอนว่าไม่พอหรอกครับ เพราะในระยะ 100 กม จากจุดศูนย์กลาง มีประชาชนอาศัยอยู่ 2,387,170 คน ดังนั้นความเสียหายต่อที่อยู่อาศัยจึงมากตามไปด้วย

ผมก็เข้าใจความลำบากของการเบิกจ่ายงบฉุกเฉินของทางราชการ งบประมาณถูกโกยจากส่วนราชการไปกองไว้ที่งบกลางฉุกเฉินซึ่ง ครม จะเป็นผู้อนุมัติ แต่ตามรัฐธรรมนูญแล้ว เมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลเพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ารัฐบาลใหม่จะเข้ามารับงานต่อ ในการนี้ การเบิกจ่ายไม่คล่องตัวเหมือนก่อนยุบสภา ประกอบกับการเก็บภาษีอากรไม่เข้าเป้า ขาดไปเป็นแสนล้านบาทเนื่องจากเงินตึงตัวเพราะรัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้ใบประทวน(จำนำข้าว)ได้ ทำให้เกษตรกรเป็นหนี้ เจ้าหนี้ของเกษกรก็เป็นลูกหนี้ กระทบกับไปเป็นทอดๆ หนี้ครัวเรือนขึ้นสูงถึง 80% ของ GDP สถาบันการเงินไม่ค่อยปล่อยกู้เนื่องจากอาจกลายเป็นหนี้เสียได้ง่ายและจะทำให้สถาบันการเงินต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอีก แม้หนี้นอกระบบซึ่งคิดดอกเบี้ยมหาโหด ก็หากู้ได้ยากเพราะหนี้เก่ายังไม่ได้ใช้

อ่านต่อ »


บ้านป้องกันหนาวในป่าเมืองร้อน

อ่าน: 3461

บ้านเมืองหนาวจำเป็นไหมสำหรับเมืองไทย?

พูดยากครับ โลกเปลี่ยนแกนหมุนยากยกเว้นจะถูกชนด้วยดาวขนาดใหญ่จนเปลี่ยนโมเมนตัมเชิงมุมไปได้ แต่ถ้าถูกชนแบบนั้น ทุกชีวิตบนโลกคงดับสูญไปหมด ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ต่างกับที่พวก pseudoscience พยายามจะบอก ในเมื่อแกนหมุนเปลี่ยนแปลงได้ยาก เขตเส้นศูนย์สูตรก็จะรับพลังงานจากดวงอาทิตย์มากกว่าเขตอื่น จึงหนาวเย็นได้ยาก

แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะ เพราะความหนาวเย็นเป็นของไหล และไม่มีอะไรไปกั้นมันไว้ ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา(ในซีกโลกเหนือ) เราก็เห็นปรากฏการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมากมาย พื้นที่ที่ไม่มีหิมะตก หิมะก็ตก เขตหนาว หนาวจะสาดน้ำร้อนไปในอากาศ แข็งจนกลายเป็นฝุ่นน้ำแข็งกลางอากาศไม่ทันตกถึงพื้น ในเมืองไทย อากาศหนาวจัดทางตอนเหนือและอีสานเหนือ ที่สวนป่าในบุรีรัมย์ อุณหภูมิลงต่ำได้ถึง 12ºC ทางเหนือ อุณหภูมิยอดหญ้าต่ำถึง -3ºC แต่หิมะยังไม่ตก เพราะความชื้นในอากาศไม่ถูกต้อง ต่อไปใครจะรู้ว่า อีสานจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ เชียงใหม่จะเป็นไอติมหรือไม่…

อ่านต่อ »


โรงเรียนกนกศิลป์พิทยาคม 25 มค 2557

อ่าน: 3837

โรงเรียนกนกศิลป์พิทยาคม พานักเรียนชั้น ม.๕ ประมาณร้อยคน มาเรียนที่สวนป่าในวันที่ 25-26 ม.ค. 2556 พบว่า ผอ.สิรภพ ปราบริปูตลุง เป็นน้องชายป้าจุ๋ม

[รูปกิจกรรมทั้งหมด บนเฟสบุ๊ค]

ครูบาและแม่หวีเหน็ดเหนื่อยกับการจัดกิจกรรมซึ่งแยกเป็นห้าหกกลุ่ม กระจัดกระจายกันทั่วทั้งสวนป่า ผมช่วยเท่าที่ช่วยได้เรื่องเตาเผาถ่านไบโอชาร์ ซึ่งวิชานี้ให้ไปหลายคนแล้ว บางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่สนใจ บางคนก็ไปทดลองทำจริง บางคนก็ไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ไม่ได้เป็นปัญหาของผมหรอกครับ ทำก็ทำ ไม่ทำก็ไม่เป็นไร

อ่านต่อ »


เฮสิบ ห้วยขาแข้ง

อ่าน: 7670

ว่างเว้นไปปีครึ่ง ด้วยภารกิจของญาติเฮแต่ละท่าน (เฮเก้า) คราวนี้พี่บู๊ดแจ้งข่าวมาแต่เนิ่นๆ ทำให้แต่ละคนมีเวลาจัดการเวลาว่างให้ตรงกันได้ (ยกเว้นน้าอึ่งอ๊อบซึ่งติดภารกิจจริงๆ แต่ก็ยังช่วยประสานงานให้พวกเรา ขอบคุณนะครับ)

งานเฮฮาศาสตร์ไม่ใช่เป็นเพียงการไปเที่ยว ไม่ใช่ study tour ที่ต่างคนต่างเรียนรู้ไปเอง แต่เป็นการร่วมกันศึกษาเรียนรู้ เนื่องจากชาวเฮฮาศาสตร์มาจากหลายหลายสาขาอาชีพ หลายภูมิภาค ด้วยพื้นฐานความรู้ความชำนาญประสบการณ์ที่แตกต่างกัน จึงช่วยให้กลุ่มได้รับประโยชน์จากมุมมองที่แตกต่างเสมอมา นอกจากการศึกษาร่วมกันแล้ว ทุกครั้งยังต้องมีเวลาคุยกันเองอย่างจริงจัง เราทิ้งบางอย่างที่มีค่าไว้ในพื้นที่ด้วย และตัวเราต้องไม่เป็นภาระแก่ “เจ้าภาพ” มากนัก

งานเฮสิบมีพี่บู๊ด ร่วมกับ สปก. จัดขึ้นภายใต้งาน “การประชุมสัมนาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน” กำหนดการอยู่ระหว่างวันที่ 6-10 ธค 2556 โดยวันที่ 6 เป็นวันเดินทางไป และวันที่ 10 เป็นวันเดินทางกลับ

อ่านต่อ »


นิสิตแพทย์ชนชท จุฬา 4-6 พ.ค. 56

อ่าน: 3879

นิสิตคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลชลบุรี ชั้นปีที่ 4 มาเยี่ยมสวนป่าเป็นรุ่นที่สี่ในรอบ 5 ปี นิสิตแพทย์มาเรียนอะไรกันในป่า?

มหาชีวาลัยอีสานสอนวิชาชีวิตครับ คำว่า “สอน” นั้น ไม่ใช่การถ่ายความรู้จากกะโหลกหนึ่งไปยังอีกกะโหลกหนึ่ง วิทยากรไม่ใช้การจับยัดหรือปล่อยของ แต่พยายามเหนี่ยวนำความรู้ด้วยการตั้งข้อสังเกต ให้แง่คิด เป็น soft side ความรู้ใดๆ ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนด้วยตนเอง และแม้แต่ผู้สอนก็ได้ความรู้ไปด้วยเสมอ

มีวิทยากรชาวเฮมาช่วยคือหมอสุธี พี่บู๊ด ครูออต และน้องจู โชคดีที่โปรแกรมนี้อยู่ในช่วงวันหยุดยาว วิทยากรจึงลางานเพียงวันเดียวเพื่อเดินทางมาคุยกับนิสิต ส่วนครูบากับผมนั้น อยู่สวนป่าเป็นปกติอยู่แล้ว

อ่านต่อ »


โลกร้อน น้ำแข็งละลาย น้ำท่วมโลก

อ่าน: 4250

น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย ไม่ได้ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น ก้อนน้ำแข็งที่ลอยอยู่ในน้ำทะเลด้วยตัวของมันเองเช่นที่ขั้วโลกเหนือ เมื่อละลายแล้วจะไปแทนที่ปริมาตรก้อนน้ำแข็งส่วนที่เคยจมอยู่; ส่วนน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้นั้น หากละลาย ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นเพราะขั้วโลกใต้เป็นแผ่นดินที่มีน้ำแข็งปกคลุม เมื่อน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ละลาย ปริมาตรน้ำในมหาสมุทรจะสูงขึ้น

จากดาวเทียมสำรวจโลก พบว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือละลายไปเยอะแล้ว แต่ที่ขั้วโลกใต้กลับมีน้ำแข็งเพิ่มขึ้น

ซึ่งเรื่องของน้ำแข็งมีความสำคัญในแง่ที่ว่า น้ำแข็งเป็นสีขาวสามารถสะท้อนแสงอาทิตย์ออกไปนอกอวกาศได้ดีกว่าผืนน้ำหรือผืนดิน หากน้ำแข็งละลายมาก โลกจะสะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์ออกไปในอวกาศได้น้อยลง ทำให้พลังงานจากดวงอาทิตย์กลายเป็นความร้อนสะสมอบอวลอยู่ในบรรยากาศ และทำให้โลกร้อนมากขึ้น

อ่านต่อ »


อุดมศึกษาจากหนังสือธรรมาภิธาน

อ่าน: 5061

จากหนังสือ ธรรมาภิธาน พจนานุกรมคำสอนพระพุทธศาสนา พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

อุดมศึกษา

การศึกษาทุกอย่างเพื่อให้ขึ้นถึงขั้นสูงสุด  คือ ปัญญา  ปัญญาสิกขาได้แก่ศึกษาปัญญาจึงเป็น   อุดมศึกษา ของคน ข้อที่ควรทราบก่อนคือ ปัญญาได้แก่อะไร? ศึกษาปัญญานั้นศึกษาอย่างไร?

ปัญญา คือความรู้ทั่วถึงความจริงของ สิ่งที่ควรรู้ทั้งหลาย คำว่า ปัญญา ซึ่งเป็น ภาษามคธ กับคำว่า ปรัชญา ซึ่งเป็นภาษา สันสกฤตเป็นคำเดียวกัน พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า “แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี” เพราะไม่มีแสงอะไรที่จะส่องให้เห็น ความจริงทั้งหลายได้เหมือนอย่างแสง ปัญญา เพียงแต่จะคิดเลขสักข้อหนึ่งจะใช้ แสงอะไรส่องให้เห็นได้นอกจากใช้ปัญญา คิด  ศึกษาปัญญา อันหมายถึงศึกษาเพื่อให้เกิดปัญญานั้น คือ ศึกษาด้วยการเรียน ๑ การคิด ๑ การทำ ๑

การเรียนดังที่เรียกว่า  โสตศึกษา ศึกษาด้วยการฟังทางหู ดังที่ฟังครูอธิบาย หรือฟังเทศน์นี้ ทัศนศึกษา ศึกษาด้วยการ ดูทางตา เช่นดูหรือเที่ยวดูสิ่งต่างๆ  โดย มากศึกษาด้วยทางทั้งสองนี้ แต่ก็อาจศึกษา ได้ทางอื่นอีก คือ  ฆายนศึกษา ศึกษาด้วย การสูดกลิ่นทางจมูก   สายนศึกษา ศึกษา ด้วยการลิ้มรสทางลิ้น   ผุสนศึกษา ศึกษา ด้วยการถูกต้องทางกาย รวมความว่า ศึกษาด้วยอาศัยประสาททั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่การเรียนอาศัยทางหู ทางตามากกว่าทางอื่น เพราะบุคคลมี ภาษาสำหรับพูดถ่ายทอดความรู้ให้แก่กัน มีตัวหนังสือสำหรับเขียนอ่านแทนภาษา จึงอาจฟังหรืออ่านให้เกิดความรู้ขึ้นได้ ปัญญาที่เกิดจากความรู้ดังกล่าวเรียก สุตมยปัญญา แปลว่า  ปัญญาที่เกิดจาก การฟัง คือ ยกโสตศึกษาขึ้นเป็นที่ตั้งเพราะส่วนใหญ่เรียนด้วยการฟัง ถึงจะดู หนังสือนั้นๆ ก็ใช้แทนภาษาที่พูดกันนั้น เอง จึงอาจนับเข้าในโสตศึกษาได้

อ่านต่อ »



Main: 2.5300590991974 sec
Sidebar: 1.4378049373627 sec