สัญญาณรัก หรือสัญญาณร้าย

อ่าน: 1875

สัญญาณรัก หรือสัญญาณร้าย

ช่วงบ่าย 3

โมงแพะทั้งฝูงร้องเซ็งแช่ ซึ่งไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน เดินดูใกล้ๆ มีแม่แพะตัวหนึ่งวิ่งมาหา ทำท่าเหมือนจะฟ้องจะบอกอะไรสักอย่าง แต่เราสื่อสารกันไม่ได้ มนุษย์ถอดรหัสของสัตว์ยังไม่สำเร็จ ส่วนแพะตัวอื่นร่วมร้องประมาณครึ่งชั่วโมงก็เงียบเสียลง

บ่าย 4 โมง

กบร้องส่งเสียงรับกัน โอ๊บๆ นานประมาณ 5 นาที

บ่าย 5 โมง

กลุ่มเขียดหลายชนิดส่งเสียงร้องอย่างกับฝนพรำยังงั้นแหละ

อาการเหล่านี้

ตอบไม่ได้ว่าทำไม? จะเกิดอะไร? พยากรณ์ฯไม่ได้บอกว่าจะมีฝน

ได้ยินได้เห็นมาอย่างนี้ก็เล่าสู่กันฟัง แล้วจะคอยสังเกตว่าจะมีสัญญาณจากสิ่งใดเกิดขึ้นอีก ถ้าทำนายประสาชาวบ้าน ปีนี้ฝนน่าจะมาเร็ว เพราะปลาช่อนไข่เปล่งท้องทุกตัว ตามปกติถ้าฝนมาช้าปลาจะไม่ไข่เร็วอย่างนี้ พอฝนมาน้ำท่าบริบูรณ์ดี ปลาจะเร่งวางไข่

ต้นไม้

นับว่าแปลกไม่น้อย มีไม้หลายชนิดออกดอกเป็นครั้งแรก เช่นมะไฟต้นข้างครัว พันธุ์สีชมพูติดผล ส่วนพันธุ์สีเหลืองออกดอกมากมายแต่ช่อดอกร่วงหมด มะกรูดหลายต้นทิ้งใบ ตามกิ่งติดดอกขาวไปทั่วกิ่ง ประดู่แดงต้นเล็กต้นใหญ่นัดกันออกดอก ส่วนลำดวนดงกำลังออกดอกตูมเต็มต้น อีกหน่อยก็คงหอมระบัดไปทั้งสวนแห่งนี้

อากาศ

ช่วงเช้า กับ ช่วงเย็น อากาศพอดีมีความร่มเย็น

ช่วงกลางวันอากาศร้อนจี๋

ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก จุดไฟป่ากันสนุกสาน

เกินควันคละคลุ้งคลุมบรรยากาศ หลายแห่งวัดแล้วเกินมาตรฐานความปลอดภัย เรื่องง่ายๆแค่นี้แหละปล่อยให้บานปลาย มันสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยโคตรมักง่าย ไม่จริงจังที่จะช่วยกันดูแลทรัพยากรป่าไม้ เกิดปัญหามานานแล้วนะเรื่องจุดฟางในไร่นา จุดสวนอ้อย จุดป่า ถ้าจัดการแค่นี้ไม่ได้

  • ป่วยการที่จะไปพูดเรื่องลดโลกร้อน
  • รีบช่วยกันสูดควันพวกนี้มากๆจะได้ช่วยลดมลภาวะ.. !

ท่านมีจิตอาสา ถ้าอยากจะช่วยพวกไม่มีกระจิตกระใจจะอาสา ควรหันมาดูส่วนนี้เพิ่มอย่างไหมครับ ต่อจากการทำเขื่อนหินเขื่อนดินเล็กๆตามป่าตามเขา มารักษาหญ้า ใบไม้ ต้นไม้เล็กไม้น้อยให้ทำหน้าที่ปกคลุมผืนโลก จะได้สอดคล้องกับเขื่อนหินเขื่อนดินเล็กๆ

เรื่องนี้ตลกมาก

ที่คนในพื้นที่ไม่สะดุ้งสะเทือนอะไร

นอนกระดิกเท้าอยู่บ้าน

ใครอยากจะมาช่วยมาทำอะไรตามป่าตามเขาก็เชิญ!

ถ้ายังดูดายโลกที่ตัวเองอาศัยอยู่ด้วยลักษณะอากาศต่างคิดต่างทำ

มั น ก็ เ ห มื อ น เ อ า ท ร า ย ม า ปั้ น โ อ่ ง นั่ น แ ห ล ะ ต๋อย!


ความมักง่าย+ความหมางเมิน=สังคมที่มีน้ำใจแต่ไร้ความร่วมใจ

พวกเรา เ อ า น้ำ ไ ป ป ลู ก ต้ น ไ ม้ กั น ดี ก ว่ า น ะ ค รั บ

จังหวัดไหนจุดไฟป่ามากๆ

ก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด-นายอำเภอ-อบต.

และชาวบ้านไปนั่งสูดควันไฟป่าให้สำลักตายไปข้างหนึ่ง

จะได้รู้แล้วรู้แร๊ด..กันไปเสียที


ทุกข์ของคนกินผัก

อ่าน: 2192

กลับจากขอนแก่นพี่น้องเอ๊ย!

เส้นทางคมนาคมทางสำไส้ผิดปกติไปจากเดิม

ทั้งๆที่ไม่ได้แตะต้องเนื้อใดๆแม้แต่น้อย

ไม่ว่าเนื้อคนหรือเนื้อสัตว์

ที่เคยสะดวกปรูดปราดก็กลับนิ่งอั้นไปเฉยๆ

ทั้งๆที่เมื่อเช้าก็ออกกำลังเดินรดน้ำอาบแดดอยู่2ชั่วโมง

แสดงว่าเรื่องการปฏิบัติต่อตัวเองด้านการรับประทานอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพร่างกายอย่างเข้มข้นเพื่อหวังผลอย่างแท้จริง จะต้องมีแปลงผักของตนเอง ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ยากอะไร แต่คนที่อยู่เมืองกรุงอาจจะผูกมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เรียกว่าคน แล้วเป็นคนปลูกผักปลอดสารด้วยนะ คนเจ้าชู้ไม่เกี่ยว จะได้ตกลงMOU.ว่าจะปลูกจะจัดส่งให้กันอย่างไร หรือใครที่มีญาติอยู่ต่างจังหวัด ถ้าปลูกผักปลอดสารไม่เป็น ก็ชักชวนกันศึกษาทดลอง ไม่ยากหรอกถ้าเห็นประโยชน์คุ้มค่าแล้งลงมือทำจริง 2 เดือนก็อิ่มท้องอิ่มอกอิ่มใจแล้ว

วันก่อนพยาบาลโรงพยาบาลสตึกมาเยี่ยมแม่หวี

พยาบาลส่วนใหญ่ขี้โรคทั้งนั้น

คุยกันไปคุยกันมาถึงรู้ โรคความดัน โรงเบาหวาน โรคไมเกรน โรคมะเร็ง โรคอ้วน โรควิตกกังวล ทำงานหนัก..เลิกงานก็ชวนกันไปเลี้ยงเป็นการหลายน๊อตที่ศีรษะ อาหารที่เลี้ยงก็ แจ่วฮ้อน ตำยำ ปิ้งย่างเนื้อ หุ่นเจ้าเนื้อกันทั้งนั้น พยาบาลลุงพุงน่าดูที่ไหนละ

จึงตุตะอรชรเป็นส่วนใหญ่ ที่ไหนจะเหมือนพยาบาลแถวเชียงใหม่ พยาบาลกลุ่มที่มาบอกว่าอยากทำงานแบบจิตอาสา ชอบใจรูปแบบการทำแปลงผัก จะรีบเอาไปลงมือที่บ้าน มีความเข้าใจมากขึ้นเมื่อโฉมยงพาไปเดินเด็ดผักสดๆมาทำอาหารกัน บอกว่าจะให้โรงพยาบาลมาติดต่อ

โธ่ ผักอินทรีย์ปลูกกินเอง ไม่ได้ปลูกขาย มีคนเข้าใจว่าผักอินทรีย์ควรราคาถูกเพราะไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมีและสารเคมี แต่หารู้ไม่ว่าเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและละเอียดอ่อนมาก การลงทุนไปอยู่ที่การเตรียมดินเตรียมน้ำอย่างประณีต ที่สำคัญการขนส่ง ถ้าส่งทางรถทัวร์ตอนเย็นไปถึงเช้า ค่าขนส่งท่านอาจจะคิดว่าแพง แต่ก็ยังถูกกว่าซื้อผักในห้าง จึงเป็นทางเลือกหนึ่งเท่ากับยิงนกโป้งเดียวร่วงมา2-4ตัว

1 ได้รับประทานอาหารสดๆปลอดภัย

2 ไม่ต้องเสียเวลาไปจ่ายตลาด มารับผักที่รถทัวร์สัปดาห์ละครั้ง

3 ได้ช่วยเหลือเครือข่ายชุมชนมีงานมีรายได้

4 ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมชาติ

· เรื่องนี้ควรจะให้รางวัลแก่สุขภาพตนเองเสียที

· ถึงผักอาจจะดูแพงอย่างไรก็ถูกกว่าสุขภาพของเราเอง

· ช่วยลดละเลิกสะสมสารพิษไว้ในร่างกาย

· แถมยังประหยัดค่ายาค่าไปหาหมออีก

· ถ้าคิดสารตะถึงคุณภาพชีวิตแล้วถูกมาก

· รีบๆดูแลตัวเองอย่างเอาจริงเถิด

· ก่อนที่จะไม่มีโอกาสทะนุถนอมตัวเอง

เมื่อเช้านี้เดินไปรดน้ำผัก แล้วเด็ดยอดผักมาอย่างละ2-3ยอดก็ค่อนตะกร้าแล้ว นึกในใจว่าจะรับประทานอาหารมื้อเดียว จึงรวบยอดเอาอาหารเช้ากับอาหารกลางวันมารวมกันไว้ด้วยกัน นั่นก็หมายความว่าเราต้อง จึงเด็ดเอาผักกินสุกมาลวกด้วย เช่น ยอดมะกล่ำ มะเขือพวง และยอดน้ำเต้า ส่วนผักสดก็เด็ดที่เคยรับประทานประจำ เด็ดไปเด็ดมา..ไอ้นั้นก็จะแก่ ไอ้นี่ก็จะยาว เรื่อยเจี้อยไปจนผักเต็มตะกร้า ล้างแล้วมีปริมาณมาก น่าจะประมาณ 2 .. ได้ คงเคี้ยวมาจนเมื่อยกราม

คราวนี้ก็เกิดความทุกข์นะสิครับ

จะกินยังไงหมดละเนี๊ย

ที่จริงก็ไม่ได้ปลูกมากมายอะไร ส่วนหนึ่งเป็นงานเก็บข้อมูลด้านเมล็ดพันธุ์

ผักที่อยู่รองรับคนได้6-7คน/วัน

ส่วนผักที่เด็ดมากินกัน2คนกำลังดี

คนชอบผักก็อยู่ไกลๆกันทั้งนั้น

จะชวนมาหาร3หาร4ก็ไม่มีทางทำได้

คนน่ารักกับคุณโยโก๊ะติดงานสำคัญมาไม่ได้

แกงขี้เหล็กที่จะทำก็คงต้องนั่งฟาดจนหน้ามืด

ครูสมบูรณ์ก็ไปควงตะหลิวอยู่ที่อินเดียโน่น

ถ้าสอนคนอินเดียกินผักไม่สำเร็จอย่ากลับมานะครับ

เสียชื่อครัวไทยสู่ครัวอินเดียโม๊ด คิคิ


สถานการณ์ตอนนี้ กินก็แล้ว แจกก็แล้ว

ผักสดเหมือนอาหารทะเลที่ไหนละ

ถึงเวลาจวนแก่ก็พุ่งพรวดพราดวันต่อวัน

ถ้าไม่รีบกำจัดจุดอ่อนละแย่เลย

ดังนั้น การวางแผนปลูกผักคงมีหลายระดับที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปล ถ้าตั้งเป้าว่าจะใช้ผักสำหรับ 10-20 คน/วัน, หรือ 30-50 คน/วัน จะมีรายละเอียดมากพอสมควร เรื่องอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้

มีคนจำนวนมากคิดเองเออเองว่าอาหารมังสะวิรัตไม่อร่อย

เพราะตนเองติดรสชาติทั่วไปเสียแล้ว ยังดีที่คนชนบทที่ยังมีน้ำพริกติดถ้วยอยู่บ้าง นักปฏิบัติจะบอกว่า..เรารับประทานเพื่อยังแก่ชีวิต ไม่ได้เพื่อความอร่อย ก็ไม่มีผิดถูกหรอกนะครับ แต่ถ้าจะเสนอแนวทางส่งเสริมให้ได้ผลเร็ว เราต้องมีเมนูเด็ดสิครับ

ทำอย่างไรถึงจะให้อาหารมังสะวิรัตอร่อยสำหรับผู้ที่ริเริ่มรับประทาน

ท่านผู้อ่านมีข้อเสนอแนะไหมครับ

ผมจะได้นำมาประกอบการความอร่อยให้อื้ออึงไปทั้งบางยี่ขัน


ควายยังเคี้ยวเอื้อง คนเราจะเคี้ยวอะไร?

อ่าน: 1777

หลังจากที่เข้ามาสู่กระบวนการรับประทานภักษาหาร ความคิดก็พุ่งทะยานขึ้นมา ตามอัตตาของคนขี้โม้ เห็นสิ่งใดดีถ้าไม่ได้บอกกล่าว..อกจะแตกตาย นี่ถ้าเน็ทบ้านนอกไม่เดี๊ยง เธอเอ๋ย..อ่านกันจนตาแฉะ เพราะมีเรื่องบอกเล่าให้คนดีที่น่ารักได้ช่วยกันพิจารณา ดังนั้น ..สิ่งที่เขียนในFB.ไม่ใช่เรื่องวิเศษวิโสอะไร เป็นแต่เพียงความรู้หยาบๆ ส่งมาให้พวกเราช่วยเติม ช่วยแก้ ช่วยขัดเกลา ถ้ามองอย่างตรงจุดก็คือ..เป็นการส่งอวดความไม่รู้ มาให้คณะผู้รู้-ผู้มากประสบการณ์-ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันแกะร่างแห

โจทย์ในวันนี้ก็คือ มังสวิรัติจะเดินหน้าอย่างไร

คนไทยถึงจะไปสู่ความตระหนัก และเข้าถึงญาติที่แสนรักของผมได้ วันวาเลนไทด์ ผมมีแต่ดอกน้ำเต้า-ดอกมะเขือ-ดอกฟักทอง ไหนเลยจะสู้ดอกกุหลาบได้ จึงขออนุญาตส่งความปรารถนาดีเกี่ยวกับการกินอยู่ของพวกเรามาแทน หวังว่าคุณคนดีคงไม่น้อยอกน้อยใจ

ที่ไม่มีกุหลาบมาปัก ฉึก กลางหัวใจนะครับ

ช่วงนี้ดอกประดู่แดงกำลังชูช่อระย้าย้อย สีแดงระเรื่อเจือสีแสดนิดๆ เป็นสีเฉพาะของเขาเลยละครับ ดอกซากุระอีสานบานต้อนรับเทศกาลแห่งความชื่นมื่นแล้วก็รีบโรยรา ทิ้งกลับดอกสีชมพูเล็กๆเกลื่อนพื้น ดอกไผ่ผึ้งมาบินตอมเซ่งแซ่ทุกเช้า โลกของดอกไม้เบิกบานไสวไม่อนาทรอะไร ถึงเวลาก็แย้มบานให้ ผีเสื้อ นก และเราได้ชมชื่น

ขอส่งมอบความรักอย่างนี้ครับ

เรื่องมังสวิรัติ ที่เราไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี หรืออยู่ในระหว่างหาคำตอบ กำลังดำเนินการและประกอบการให้เหมาะสมกับสภาวะแห่งตน เรื่องความเคยชิน เรื่องของนิสัย ใช่ว่าจะจัดการอะไรได้ง่ายๆ การอธิบายหรือชักชวนเรื่องนี้ ผมย้อนไปถึงคำสุภาษิตที่ว่า

“สร้างเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน”

เมื่อมีที่หลับนอนสะดวกสบายใจฝันหวานได้ไม่อั้นแล้ว ก็จะชวนมาดูเรื่องอาหารการกินที่ปฏิบัติมา เป็นอย่างไรบ้าง ไม่ชอบอะไรบ้าง และติดอกติดใจกับเมนูอะไรบ้าง เรื่องพื้นฐานของจิตใจที่เคลือบความชอบไว้สำคัญนักเชียว ถ้ามองข้ามก็ตกม้าตายได้ง่าย ความหวังดีที่เราจะบรรจุเข้าไปก็อาจจะโดนดีดกลับ สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลย..

จบแบบเอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้

ผมรักใครแล้วไม่ยอมให้จบลงง่ายๆหรอก

พยายามใคร่ครวญว่าจะชวนที่รักให้รับประทานมังสวิรัติเพิ่มขึ้นได้อย่างไร?

มังสวิรัติสไตล์มหาชีวาลัยอีสานจะเดินสายกลางครับ

จะมาข่มขืนความรู้สึกของที่รักนั้นไม่บังควร

ลำดับที่ 1

ท่านใดรับประทานอาหารประเภทใดอยู่ก็รับประทานต่อไป เพียงแต่ขอความร่วมใจลดเมนูเนื้อสัตว์ลงบ้าง เคยสั่งถ้วยใหญ่ก็ลดลงเป็นถ้วยเล็ก เคยประประทานเต็มที่ก็ยั้งๆช้อนไว้บ้าง เคยสั่งเมนูเนื้อเต็มโต๊ะก็ลดลงสักครึ่งโต๊ะ ค่อยๆลดไปเพื่อให้กระเพาะและจิตใจรับสภาพความเปลี่ยนแปลง

ลำดับที่ 2

ทดลองชักชวนตัวเองให้ลองรับประทานผักมากขึ้น เลือกชนิดผักที่ตนเองชอบมากที่สุด ซึ่งก็คงจะมีบ้างละน่า คงไม่มีใครไม่เคยกินผักเอาเสียเลยในชีวิตนี้ ถ้ายังไม่กล้าสั่งเมนูผัก ก็มองไปที่โต๊ะข้างๆก็ได้ พร้อมกับถามตัวเองว่า..ทำไมท่านอื่นๆจึงรับประทานผัก ตัวเราผิดปกติตรงไหนหรือเปล่า ถ้าผักไม่ดีไม่อร่อย ใครจะบ้าสั่งมารับประทานกันละครับ ลองคิดเบาๆ..อาจจะฉุกคิดขึ้นมาก็ได้ ถ้าอยากจะลองชิมชิ้นมา..คราวนี้ละได้เรื่อง..

เอ๊ะ มีคนพูดว่ากินผักบุ้งแล้วตาหวาน

ถ้างั้น..นี่หนูๆ..พี่ขอสั่งผักบุ้งไฟแดงจานหนึ่ง

ลำดับที่ 3

ทดลองชิมผัดผักต่างชนิดมากขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ตัวเราคุ้นชิน จะได้พิจารณาสั่งอาหารแปลกเพิ่มขึ้น เช่น จับฉ่าย ฟักตุนมะนาวดอง น้ำเต้าชุบแป้งโกกิทอด พิจารณาสั่งอาหารที่มีส่วนผสมของผักมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สั่งผลไม้จำพวก ฝรั่ง กล้วยสุก แอปเปิล แคนตาลูป ส้ม มังคุด สับปะรด มะพร้าวอ่อน ผักกับผลไม้คุณสมบัติใกล้เคียงกัน ก่อนที่จะโดดไปสู่การรับประทานผักสด ก็อยากจะให้ชิมชอบความสดของพืชผักเป็นเบื้องต้นเสียก่อน

อย่าสั่งผลตาลสุก! ก็แล้วกัน

ลำดับที่ 4

จะชวนที่รักชิมผักสดแล้วละนะ เมนูที่เลือกคือ “เมี่ยงคำ” “แหนมเนือง” อาหารกลุ่มนี้กระจุ๋มกระจิ๋ม เครื่องเคียงมีให้เลือกแยะ สนุกตรงช่วยกันหยิบโน่นเติมนี้มาห่อแผ่นแป้งเป็นคำๆ หรือจะลองใช้ใบชะพลูก็ได้ ที่สวนช่วงนี้งามมากๆ ชะพลูยอดเขียวอ่อนแต่ละใบขนาดฝ่ามือแน๊ะ เพื่อให้ซู่ซ่ายิ่งขึ้น น่าจะเสริม ส้มตำ ยำถั่วพู ยำหัวปลี ยำแตงกวา ถ้ามีผู้สูงอายุก็เพิ่มยำมะเขือยาว ถ้าเป็นเมนูน้ำๆ ก็ทำประเภทแกงจืดตำลึง หรือประเภทซุปผักต่างๆ ตามด้วยผลไม้ มะละกอ ขนุน แตงโมนี่ถ้าไม่ได้ปลูกเองอย่าซื้อเลย ให้สารเคมีมากที่สุด หันไปหามะม่วง ส้มโอ กล้วย จะดีกว่า

ลำดับที่ 5

เราคุ้นชินกับการกินผักแบบหยั่งเชิงผ่านไปแล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่การรับประทานผักมากขึ้นๆ 50%-60%-80%-99.9% ขึ้นอยู่กับประมาณตนประมาณใจตัวเองว่าแค่ไหนพอดี ท่านที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บก็พิจารณาได้ว่าควรจะเลือกสัดส่วนการรับประทานผักแค่ไหนอย่างๆไร ส่วนท่านที่สุขภาพชำรุดก็ควรจะใส่ใจมากขึ้น มากเป็นพิเศษ ก็ย่อมได้

มื้อเช้าผมรับประทานผักสด

มื้อกลางวันถ้าหิวก็รับประทานผักสุก/ข้าวนิดหน่อย

มื้อบ่าย-เย็น รับประทานผลไม้และ น้ำมะพร้าวอ่อน

รายการทั้งหมดนี่ไม่ตายตัว ถ้าไม่หิวก็ไม่รับประทาน

ปล่อยท้อง-ปล่อยใจ-ว่างบ้างไม่ได้รึไง!

ลำดับที่ 6

ผมมีเพื่อนที่ชอบรับประทานอาหารประเภทเนื้อแบบชูชกเรียกเฮียนั่นแหละ เรียกแกเล่นๆว่า “ขาใหญ่” ร้านอาหารประเภทที่เชลชวนชิมและลืมชิม ถ้าหนังสือพิมพ์ลงเรื่อง/รูป ทีวีออกรายการ..แกจะหูผึ่ง โทรมาชวนยิกๆ ..ไกลแค่ไหนแพงแค่ไหนก็บ่ยั่น!

ขาใหญ่เพิ่งจะออกโรงพยาบาล

ผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วระดับ..สุวรรณเกือบเปิดดูบัญชี

ยังไม่แข็งแรงดีโทรมาชวนอีกแล้ว

จะมากรุงเทพฯแล้วยัง จะได้ไปหาอะไรกินกันอร่อยๆ

..ผมเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วครับ ..

แกร้องเสียงหลง..”เป็นไปได้ยังไง

“คราวนี้ผมจะไปกินข้าวกับใครละ”

อ้าว! ยุ่งแล้วไหมละ

ลองกินมังสวิรัติดูไหมละเฮีย

“ไม่ไหวละมั๊ง มันจะอร่อยตรงไหน”

ผมเตรียมวิธีปราบเซียนไว้แล้ว

1 ถ้าไปกินข้าวด้วยกันคราวนี้ ผมจะเลี่ยงไปรับประทานเฉพาะที่เป็นน้ำๆ

ถ้าเป็นจำพวกปลา ปูนึ่ง อาจจะชิมพอไม่ให้เสียน้ำใจ

2 ผมจะขอสั่งเมนูผักๆ แล้วลองชวนแกชิม

3 แกอยากมาสวนป่าอยู่แล้ว ก็จะทำอาหารประยุกต์เลี้ยง แต่จะไม่ตัดบัวไม่เหลือใยเสียทีเดียว อาจจะทำไก่อบโอ่ง ปลาอบโอ่ง แถมด้วยผัดยอดน้ำเต้า ผัดฟักทองอ่อน แล้วกินผักสดโชว์ ว่ามันดียังไง สะดวกสบายยังไง เป็นผลดีต่อสุขภาพยังไง รักตัวเองไหม อยากจะมีชีวิตอยู่จะทำงานต่อไปอีกนานๆไหม เงินทองที่หามาได้ร่ำรวยจะมีประโยชน์อะไร

ผมไม่เคยเห็นคนนอนโลงศพแล้วเซ็นเช็คได้ !

ผมชอบใจคุณโยโกะ มาครั้งที่แล้ว ทดลองทำอาหารแปลกๆให้รับประทาน ล่อกันขนาดแกงขี้เหล็กกันเลย นึกว่าจะตาหน้าแหย กลับยิ้มกว้าง ยกนิ้วชู บอกว่าชอบมาก.. อาร๊อย อาร่อย ! มาช่วงผักกำลังงามด้วยสิ มาที่นี่ไม่กินผัก นับว่าวาสนาอักเสบแน่ๆเลย วันที่17-19 คุณโยโกะก็จะมากับคุณจินตนาที่สวนป่าอีกครั้งหนึ่ง

ถ้าไม่ติดใจ..จ้างสักพัน ก็ไม่หันหน้ามาอีกหรอกหนา

ครูสมบูรณ์บอกให้เคี้ยวช้าๆ..

เคี้ยวอาหารอย่างเดียวไม่ทำอะไรก็เสียเวลา

ระหว่างเคี้ยวเบาๆคิดเบาๆ..ก็เขียนเรื่องราวออกมา

ผ่านการกลั่นกรองจากปากสู่ตัวอักษรให้ที่รักอ่าน

นี่ดีนะ ถ้าอินเตอร์เน็ทส่งกลิ่นและเสียงไปได้ด้วย

ที่รักจะน้ำลายไหลแม๊ะๆ..มากกว่านี้..

· ใช้เวลารับประทาน 1.5 ชั่วโมง

· ผมกลืนอาหารลงท้องประมาณ 80%

· 20% กลืนเฉพาะน้ำผัก ส่วนกากคายทิ้ง

· อุ้ยจันตา..มากระเซ้าว่า ลดได้2รูเข็มขัดจริงหรือเปล่า?

· ผมก็ยิ่งลดภาระการบดย่อยอาหารลงด้วยวิธีนี้

· เคยเห็นแต่วัวควายเคี้ยวเอื้อง

· คนเราก็เคี้ยวเอื้องได้นะจ๊ะคนสวย

แคว๊ก แคว๊ก


มึนจังตู

อ่าน: 1389

ชุมชนท้องถิ่น: ฐานรากการพัฒนาประชาคมเศรษฐกิจอาเชี่ยน เป็นโจทย์การจัดประชุมทางวิชาการ ประจำปี 2555 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 400 ท่าน ส่วนมากจะเป็นการนำเสนอของนักวิจัยจากสำนักต่างๆทั่วปะเทศ นับเป็นการชุมนุมอาจารย์,นักศึกษาที่ต้องการนำเสนอผลงานวิจัยอีกงานหนึ่ง จากที่เคยไปร่วมเป็นวิทยากรที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ที่หาดใหญ่ เมื่อปีที่ผ่านมา และไปร่วมงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดที่เชียงใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว

ก่อนหน้านี้คนไทยจะเจอคำว่า..เศรษฐกิจพอเพียงจนจำเจ

ต่อไปนี้ก็จะเจอคำว่า..ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจนหูอื้อ

และจะเจอคำว่า.>.> การประชุมระดับนานาชาติบ่อยๆ

สิ่งเหล่านี้จะเรียกว่าการโหนกระแสหรือสร้างกระแสก็ไม่ทราบได้

เพราะเท่าที่รับฟังไม่ค่อยมีเนื้อมีแต่น้ำ

เหมาะกับคนรับประทานมังสวิรัติอย่างผม

เมื่อเช้าตื่นสะโหลสะเหล่เพราะนอนดึก ชวนโฉมยงลงมารับประทานอาหารเช้านอกบ้านเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เลิกรับประทานเนื้อ เนื่องจากเป็นอาหารในโรงแรมเราจึงมีอาหารให้เลือกพอสมควร เลือกผักสลัด ชิมน้าสลัด5-6ชนิด เลือกผลไม้ เลือกน้ำขิง แค่นี้ก็อิ่มไปขึ้นเวทีได้

เจ้าหน้าที่มาตามไปห้องรับรอง ฟังคณะผู้ใหญ่คุยกันสนุกสนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมาในฐานะประธานเปิดงาน รศ.ดร.สุทัศน์ เศรษฐ์บุญสร้าง อดีตรองเลขาธิการอาเซียน และอดีตผู้แทนการค้าไทย เป็นองค์ปาฐก

2 ท่านแรกให้ความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆไว้ดีมาก

ต่อจากนั้นเป็นการอภิปรายคณะของผม

คุณจิตนา ชัยยวรรณการ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

คุณธีรศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่นและรองนายกเทศมนตรี

ในชั้นแรกตกลงกันว่าจะเอาผมไว้คนสุดท้าย แต่พอขึ้นเวทีไหงผู้ดำเนินรายการโยนไมค์มาให้ผมจ้อเป็นคนแรก ให้เหตุผลว่า..หัวข้อเขากำหนดมาว่า..ชุมชนเป็นฐานรากการพัฒนาประชาคมอาเซียน ก็ต้องให้ตัวแทนเป็นพระเอก..

ผมขอเกริ่นว่า..ชุมชนถูกชวนให้ออกมายืนหน้าฉากยังงี้แหละ ในความเป็นจริงก็รู้ๆกันอยู่ว่า ไม่ได้เป็น”พระเอก”หรอก เป็น “เสี่ยวอ้อ” ต่างหาก และเรื่องอาเซียนนี่ ชาวบ้านก็ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่ อยู่ทุกวันนี้ก็แทบเอาตัวไม่รอด ชักหน้าไม่ถึงหลัง จะไปเป็นฐานรากอะไรได้ คงเป็นได้แต่รากเน่าๆผุๆละมั๊ง ใครๆก็รุมกินโต๊ะชุมชน ไปขายข้าวก็ถูกแกล้งหักความชื้น หักสิ่งเจือปน ไปขายยางพาราก็อ้างว่าไม่ได้มาตรฐาน โดนสูบเลือดสูบเนื้อต่อหน้าต่อตา ยังจะมาบอกว่า..ชุมชนเป็นฐานทั้งๆที่เป็นหนูลองยาให้ใครต่อใคร..มานานแสนนาน

การที่จะเอาชุมชนเป็นฐาน

ถามว่ารู้จักชุมชนแค่ไหน

พวกเราๆนี่แหละ..กว่าจะออกไปหาชุมชนได้แต่ละที

ต้องติดกฎเกณฑ์ ระเบียบ วัฒนธรรมขององค์กร

บางแห่ง..จะออกมาหาผม..ฝ่ายบริหารถามว่ามันเกี่ยวกับKPI.รึเปล่า อีโธ่อีถังเอ๋ย ..มันจะทันกินได้อย่างไร สมัยนี้เป็นยุคของโลกการสื่อสารสายฟ้าแลบ ทุกอย่างต้องรวดเร็วฉับพลัน จะมาแต่งตัวเป็นแม่สายบัวไม่ทันกินหรือ ชุมชนบางแห่งเขาไปโลดแล้ว เขาไม่มารอเรือก้นทะลุหรอกนะครับ

· นักวิชาการนักวิจัยควรจะออกไปเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

· โจทย์วิจัย/หัวข้อวิทยานิพนธ์จะเอากี่กระบุ้ง

· ผมเดินเตะตรงไหนก็เป็นโจทย์วิจัยทั้งนั้นแหละ

· จะเอาสักกี่1,000 หัวข้อก็ได้

· ถ้าออกไปถามชุมชนว่าเขาติดขัด/หรือต้องการสิ่งยกจะรู้สิ่งใด

· งานวิจัยก็จะลดขั้นตอน ไม่ต้องวิ่งหาคนใช้ประโยชน์จากงานวิจัย

· มาตั้งเองชงเรื่องเองเอาแค่พอจบๆมันก็ไอ่แค่นั่นแหละ

เท่าที่อ่านในเอกสารบทคัดย่องานวิจัยที่ตีพิมพ์ในเอกสารของงานนี้ ต้องขอขอบคุณหลายท่านที่ทำในหัวข้อที่ชุมชนสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ด้านหน้าห้องนี้มีแม่ใหญ่หลายคนมานั่งสานกระติบไม้ไผ่ บอกว่าเป็นงานโอท็อป ผมเห็นแล้วชอบใจ จึงซื้อกระติบยักษ์มา1ใบ ราคา600 บาท มีคนบอกว่าอย่างเพิ่งเอาไปได้ไหม ขอเอาไว้โชว์ก่อน อ้าว! ตอนคณะผู้ใหญ่เดินผมก็ได้อวดผลงานไปแล้วนี่ ผมจะกลับแล้ว จึงขออุ้มกลับบ้าน ขอชื่นชมว่าฝีมือดีมาก แต่ก็ยังพัฒนาต่อไปได้อีกถ้านักวิจัยเข้าไปช่วย

ตามโผ ผมต้องพูดในกรอบ..-สถานการณ์และความตื่นตัว หรือเข้าใจต่อการดำเนินการตามข้อตกลงของภาคประชาชน หรือภาคเกษตรกรรมรายย่อยมีมากน้อยเพียงใด และในส่วนที่คิดว่าตื่นตัวแล้ว เข้าใจว่าผลกระทบในเชิงบวกหรือลบ เป็นอย่างไร? และได้เตรียมการอย่างไร?

ถ้าจะพูดตามโผให้มา..ก็ขอบอกว่ามึนพะยะค่ะ ชุมชนไม่ได้รู้เรื่องตามที่โผบอกสักหน่อย เป็นการตั้งข้อสมมุติฐานเอาเอง ทำไมไม่ถามใจกันดูก่อน หรือให้อิสระในการที่จะแสดงความเห็น ผมคิดว่า..ผมพูดได้นะ ไม่งั้นไม่ถ่อทิ้งงานขับรถมาร่วม200 .. เพื่องานนี้หรอก ผมจึงทิ้งโผนะสิครับ..

ด้านความเข้มแข็ง..ชุมชนแตกซ่าน ไม่มีความรู้ที่จะอยู่ในท้องถิ่น ทิ้งถิ่น

ด้านวิชาความรู้..ความรู้ไม่พอใช้

ด้านจารีตประเพณีและวัฒนาธรรม ..โดนแจจังกึมครอบจนลายพันธุ์ไปแล้ว

ด้านความมั่นคงอาหาร ..แต่อาหารที่คนไทยรับประทานเต็มไปด้วยสารพิษ

ด้านเศรษฐกิจ..จะเป็นครัวโลก ส่งอาหารไปEU. ถูกเขาตีกลับกระเจิง

ด้านความปกติสุข ปลอดภัย ก็กินใจแบ่งกันออกเป็นฝักเป็นฝ่าย

เล่าถึงการสร้างเครือข่ายแบบอิงระบบ

อวดว่ามีเพื่อนอยู่ทั่วโลก

รักใคร่เสมือนญาติสมานไมตรี

ทราบว่าผมปลูกผักก็ส่งเมล็ดพันธุ์ผักมาให้ทั้งในและต่างประเทศ

ผมไม่มีน้ำยาหรอก แต่เพื่อนๆที่ยืนเคียงข้างผมล้วนเป็นจอมยุทธด้านต่างๆ

กำลังสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ผ่านเฟสบุกค์

ประเทศในกลุ่มอาเซียนผมก็ตระเวนมาแล้ว

พอที่จะเห็นเรื่องหยาบๆที่เป็นพื้นฐานของเขา.>.>

คุยเรื่องจะชวนคนกรุงออกป่า เรื่องหมู่บ้านโลกได้นิดหน่อย

กำลังโม้เพลินๆ อ้าว! หมดเวลาแล้ว

ต่อด้วยท่านรองอธิบดีจินตนา และท่านประธานหอการค้าขอนแก่น เนื่องจากท่านทำมากับมือ จึงมีสาระประโยชน์ในการสะท้อนมุมมองเกี่ยวกับอาเซียนได้ดีมาก จบรอบแรกขึ้นรอบที่2 คราวนี้ท่านรองอธิบดีเปิดฉากก่อน..ต่อด้วยท่านประธานหอฯ ตามที่ตกลงกันรอบนี้น่าจะได้เวลาคนละ 10-12นาที เนื่องจากเวลาบีบเข้ามาบ่ายแล้ว ท่านผู้ดำเนินรายการ ขอลดเหลือ 5-6 นาที

ผมพูดเป็นคนสุดท้าย

ก็ทิ้งทุ่นไว้ว่า..

· การประชุมลักษณะนี้มักจะจัดทำนองเดียวกันทั่วประเทศ

· ไปเวทีไหนก็อย่างนี้แหละ

· จะให้พูดเรื่องอนาคต/การแข่งขัน/เรื่องเป็นเรื่องตายแต่ไม่มีเวลาให้

· ผมก็จนใจ..ดีนะที่ผมเจอบ่อยจึงไม่เตรียมPowerPoint ให้เสียเวลา

เมื่อไหร่เราจะประชุมเพื่อเอาแก่นสารกันจริงๆ ถกกันจริงๆ ให้ได้ความจริงออกมา อย่าไปก็อปรูปแบบการสัมมนาแบบเก่าๆอยู่เลยครับ ยุคของการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลย มันบ่งบอกอะไรหลายอย่างนะครับ

หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปหมู เอ๊ย! รูปหมู่ แจกของที่ระลึก

ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

เป็นกลุ่มงานวิจัยที่เหมาะกับนำไปใช้กิจการ SPA

มีกลิ่นดอกโมก-บัวหลวง-พลับพลึง-กุหลาบ-ดอกแก้ว-

คุณภาพดี กลิ่นหอมเยี่ยมเลยละครับ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชวนเข้าห้อง..รับประทานอาหาร มีอาจารย์หลายท่านเข้ามาชวนไปกินข้าวจะได้คุยกันด้วย แต่ผมบ่กินอาหารประเภทที่โรงแรมจัด จึงออกมาหาสุกี้MK. สั่งชุดผักมาเจี๊ยะแก้ขัด เห็นผักของMK.แล้วสงสารท้องตัวเอง เทียบไม่ได้หรอกกับผักเราปลูก ชวนกันกินพอปะทะประทัง กลับมาถึงบ้านจวน6โมงเย็น ไปรดน้ำผัก ปลูกผัก อาบน้ำ นอนรำพึงรำพัน

ลุงเอกโทรมาหา

มองเห็นแต่โรงแรมที่พักใกล้เคียงกัน

ต่างคนต่างยุ่งจึงไม่ได้เจอกัน

นี่แหละสังคมไทยยุคบ้าๆบอๆ

อยู่ใกล้กันแค่ตะโกนได้ยิน..ก็ยังไม่ได้พบหน้า

แล้วคนรักที่อยู่ห่างไกลออกไป.10 ..100 ..500..5,000..

จะพบกันได้อย่างไร?

ยังมิรู้เลยยยยยย..

โอ้ย.. มึนจังตู !


โมเดลสวนป่า

อ่าน: 1761

ผมมีแผนพัฒนาอยู่ในใจมานานแล้ว

แต่กึ๋นไม่พอ..ทำอะไรก็ยักแย่ยักยัน

ผมคิดอย่างนี้ครับ > >

อยากจะชวนคนกรุงมุ่งออกมาสู่ชนบท

จากโจทย์ที่ว่า..จะพัฒนาอะไรต้องใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ

ทรัพยากรมนุษย์ที่ว่านี้จะใครเสียอีกละ..ถ้าไม่ใช่ชาวกรุง

เก่ง ดี มีความพร้อม เหมาะที่จะชักชวนมาสร้างอนาคตให้กับชนบท

แทนที่จะไปอัดแน่นแข่งกันซังกะตายในบางกอก

ไม่ได้ใช้ฝีไม้ลายมือ..สมกับความสามารถที่เอกอุ

มันน่าเสียดายเป็นบ้าเลย..เธอว่าไหม?

อ้าว ! แล้วคนชนบทละ ทำไมไม่ชวนมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนด้วยเล่า   ก็ไม่ได้มองข้ามญาติโกโหติกาเหล่านี้หรอกนะครับ เพียงแต่ว่า..คนที่มีฝีไม้ลายมือหนีเข้าบางกอกหมด ปล่อยให้แม่ใหญ่เลี้ยงดูลูกหลานอยู่ในหมู่บ้าน พ่อบ้านแม่บ้านวิ่งเข้าวิ่งออกระหว่างโรงงานกับหมู่บ้าน อิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน ไม่มีกระจิตกระใจที่จะก่อสร้างแปงเมือง ถูกกระแสอยากจะรวยมากๆ รวยง่ายๆ รวยเร็วๆ ถูกปั่นหัวเหมือนลิงเมายาบ้า ทำมาหากินอะไรก็ทุนหายกำไรหด เป็นหนี้เป็นสินหัวโต เมื่ออยู่ชนบทไม่เห็นอนาคตก็เผ่นสิครับ ไปเป็นผู้อพยพแรงงานกันบานเบอะ

  • การศึกษาก็สอนแต่วิชาทิ้งถิ่น
  • ชาวไร่ชาวนาถูกกระทำ ถูกเอารัดเอาเปรียบ
  • ทำงานแทบตาย..กลายเป็นทำให้คนอื่น
  • หาได้เท่าไหร่ต้องเอาไปจ่ายจิปาถะ
  • จ่ายค่าน้ำมูกน้ำมัน ค่าเครื่องจักร ค่ายาปุ๋ย ค่ายา ค่าดอกเบี้ย ค่าโง่
  • เป็นหนูลองยาให้กับโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ
  • ลองไปลองมาหนูที่ว่านี้หมดตัว หมดภูมิปัญญา หมดอนาคต
  • ทำมากทุกข์มากลำบากนักหนา
  • หนี้สินพัวพันเกี่ยวกันเรื่อยมา
  • ไปถามพ่อค้า..ราคาก็ร่วงรูด
  • ทีวีก็ดีแต่พูดๆ..ชวนให้กินไก่ขี้โรค
  • ชวนให้เสี่ยงโชคกับหวยเอื้ออาทร

นักสู้ลูกทุ่งหมดเรี่ยวหมดแรง

เปลี่ยนจากเกษตรกรไปเป็นกรรมกร

เมื่อเป็นฉะนี้..ผมจะไปชวนน้องพี่ที่ไหนละครับมาพัฒนาชนบท

ชวนใคร..ก็เอาแต่ทำตาปริบๆ

เพื่อนบ้านทิ้งถิ่นทิ้งผมไปเฉยเลย

เมื่อละครพัฒนาชนบทส่งผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้

จะให้ผมทำฉันใด ..ละขอรับ

มองไปไหนก็เห็นแต่หมาผอมโซไม่มีแรงแม้จะโงหัวขึ้นมาเห่า

ผมจึงวางแผน ยั่วยุ ยั่วเย้า ยั่วยวน ชวนคนกรุงทิ้งกรุง

จะทิ้งถาวร หรือทิ้งเป็นครั้งเป็นคราวก็มาจับเข่าคุยกัน

ผมเชื่อแน่ว่า..ถ้าท่านเต็มใจช่วยชาติ วาสนาท่านดีแน่

จะแจกบัตร ATM. เบิกความคิด ความหวัง ความสงบสุข

ผมเป็นคนจริงใจและจริงจังนะบอกไว้ก่อน

คิดเล่นๆเบาๆแต่เอาจริงนะเธอ

รักแล้วรักเลย ไม่มีเกียร์ถอย..

บางคนถามว่า..เกษียณแล้วมาได้ไหม?

มาได้ โธ่ ! อาวุโสประสบการณ์ยิ่งต้องการเป็นพิเศษ

หนุ่มสาวละมาได้ไหม > >

โธ! จะเสียเวลาถามทำไมก็ไม่รู้

คนอกหัก คนถูกแฟนทิ้ง  ก็มาได้

ผมนะมีลูกสาวลูกชายสุดหล่อให้เลือกเป็นกะตัก

บางคนถามมายังไง ..อ้าว! จะให้จัดกองยาวไปเห่ไหมละ

มาให้ถึง..ไม่ต้องห่วง

จะต้อนรับดูแลเครือญาติยิ่งกว่าไข่ในหิน

จะชวนทำเรื่องสนุกๆและตื่นเต้น

เช่น..ยังไงบ้างค่ะ > >

เมื่อเช้านี้ เดินไปคุยกับนกกระจอกเทศ

เจ้านกกระจอกยักษ์เดินยิ้มมาหาเชียว..

ผมหยิบไอโฟนเพื่อจะถ่ายรูปแม่ตาหวานใกล้ๆ

คาดไม่ถึง.. แม่คุณอ้าปากจิกคาบเอาไอโฟนไปเฉยเลย

กว่าจะวิ่งตามไปขอคืนมาได้

ไอโฟนก็คลุกฝุ่นไปเสียแล้ว !

คิ คิ ..



Main: 0.40159392356873 sec
Sidebar: 0.69498300552368 sec