๒๒. สันติวิธีในสังคมไทยการรับรู้และความเข้าใจ ๒

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 26 กรกฏาคม 2008 เวลา 22:20 ในหมวดหมู่ เสริมสร้างสังคมสันติสุข #
อ่าน: 81701

ขอต่อให้จบตอนในวันนี้เลยนะครับ คราวที่แล้วในนำบันทึกที่ อาจารย์มารค พูดถึงว่าการบรรยายจะมีสามหัวข้อ พูดไปแล้วสองหัวข้อ หัวข้อนี้เป็นหัวข้อสุดท้าย คือหัวข้อ…

สันติวิธีในแง่การต่อสู้เรียกร้อง

ใช้เป็นวิธีการหนึ่งที่เรียกว่า Non-Violence  แต่คำว่า

-Civil disobedience (ดื้อแพ่ง อารยะขัดขืน หรือวิธีแสดงออกของประชาสังคม) หมายถึงการไม่ทำตามกฎหมายแพ่ง(Civil)  แต่อีกความหมายถึง ไม่ทำตามแบบอารยะ(Civil) และอีกคำว่า เป็นเรื่องของประชาสังคม(Civil)

-Civil disobedience กับการพัฒนาประชาธิปไตย (ให้การศึกษาแก่สังคม ยอมรับโทษที่ตามมา ทำด้วยจิตใจที่มั่นคง มีเป้าหมายเป็นทางบวกไม่ใช่แค่ทางลบ)

มีประวัติยาวนานให้การพัฒนาประชาธิปไตย เช่น กว่าจะมีกฎหมายตั้งสหภาพแรงงาน ต้องต่อสู้นอกแบบกฎหมาย

วิธีเรียกร้องโดยสันติไม่ใช่ความชอบธรรมในการเรียกร้อง

-มีการให้การศึกษาให้เขาหรือยัง

-ยอมรับ โทษที่ตามมา ผู้เรียกร้องต้องรับโทษหรือไม่ ห้ามต่อสู้ว่าไม่ต้องรับโทษ เพราะการรับโทษเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา และการรับโทษต้องถือเป็นเรื่องจริงจัง

-ทำด้วยจิตใจที่มั่นคง มีจุดยืนนั้น เราทำ เราไม่ท้อถอย จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่ใช่ทำจนเหนื่อยแล้วเลิก หรือว่าพอต้องถูกลงโทษแล้วไม่เอา

-เป้าหมายเป็นทางบวก คือทำแล้วมันน่าจะเกิดความดีเกิดขึ้น เช่น ทำแล้วให้กฎหมายไม่ดียกเลิก และออกกฎหมายใหม่ที่เป็นความดี พิจารณาตัวอย่างในอดีต มีทางจะเป็นกฎหมายได้หรือไม่ถ้าไม่มีวิธีการเรียกร้องแบบอารยะขัดขืน ถ้าเรียกร้องสำเร็จ ประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้นในสังคมโดยรวมได้หรือไม่  เช่น ผู้ หญิงไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ก็มีการต่อสู้จนได้รับสิทธิเลือกตั้ง หรือกรณี การตั้งสหภาพแรงงาน กว่าจะตั้งได้ก็ต้องต่อสู้ยาวนานเช่นกัน

การใช้สันติวิธีต้องใช้อย่างฉลาด

-มิติทางวัฒนธรรมของการต่อสู้แบบสันติวิธี(บริบทที่ทำให้การต่อสู้อาจสำเร็จ) แบบคานธีจะสำเร็จหรือไม่หากรัฐในขณะนั้นไม่ใช่อังกฤษ

-อะไรเข้าข่าย “วิธีที่สันติ”

หลากหลายวิธีที่สันติ

กรณีการ์ตูนล้อเลียนศาสดาที่เดนมาร์ก  แล้วสถานฑูตถูกเผา แต่ที่เดนมาร์กงงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโกรธเขา

อ.มารค ตอนเด็ก ถูกล้อว่าฝรั่งขี้นก  ไปถามแม่ แม่บอกว่า “ไม้หรือก้อนหินทำให้เราเจ็บได้ คำพูดทำให้เจ็บไม่ได้”  เสรีภาพในการแสดงออกไม่ทำให้เจ็บ(กาย) แต่อีกวัฒนธรรมหนึ่งเขาเจ็บใจ

อาจารย์อ่านหัวข้อต่างๆให้เราคิดว่าสิ่งที่ท่านอ่านมานั้นอย่างไหนที่เรียกว่าสันติ วิธีอย่างไหนเรียกว่าไม่ใช่สันติวิธี แล้วเราก็หาคำตอบไม่ได้ อิอิ ผมอยากให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านลองคิดดู ลองตอบดู แล้วตอบคำถามว่าท่านเข้าใจสันติวิธีจริงหรือไม่ อิอิ

แถลงการณ์โดยกลุ่มคน

เข้าชื่อตีพิมพ์ลงในสื่อต่างๆ

เขียนป้ายติดตามแหล่งสาธารณะต่างๆ

เขียนข้อความบนท้องฟ้า Skywritingcและบนพื้นดิน Earthwriting

ให้รางวัลประชด

ชูป้ายต่างๆที่มีผลกระทบสูง

จัดการเลือกตั้งประชด

จัดพิธีกรรมทางศาสนา

ติดสัญญลักษณ์ตามเสื้อผ้า

ถอดเสื้อผ้าตามที่สาธารณะ นิยมมากขึ้นเพราะสื่อจะสนใจ ยิ่งถ้าถอดในที่ไม่ควรถอด (และคนถอดเป็นผู้หญิง ฮา…..)

ทำลายทรัพย์สินตัวเอง

ติดรูปคนในลักษณะต่างๆในที่สาธารณะ

ทำป้ายตั้งชื่อถนนและตึกใหม่ ไม่ชอบที่รัฐตั้งชื่อให้ จึงตั้งชื่อถนนหรือหมู่บ้านเอง

แสดงท่าทางและพูดหยาบคาย แต่ต้องชัดว่าเราต้องการอะไร จะแสดงแต่ท่าทาง

เจาะจงบุคคลเฉพาะเพื่อกดดันโดยการล้อเลียนหรือยืนเฝ้าหน้าบ้านต่อเนื่อง

ใช้การแสดงเป็นสื่อ

เดินขบวนในรูปแบบต่างๆ

ทำพิธีหลอกเกี่ยวกับการตายของคนต่างๆ

ลุกออกจากที่ประชุมเป็นกลุ่มใหญ่

ปฏิเสธหรือคืนรางวัล/เหรียญตราต่างๆ

ไม่ร่วมกิจกรรมสังคม กีฬาต่างๆ

ลาออกจากชมรม

ไม่จ่ายค่าเช่า

นัดกันหยุดงาน

นัดกันทำงานล่าช้า

ลาป่วยพร้อมกัน

ถอดป้ายชื่อราชการ

ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม

อดอาหาร

ตั้งหลักอยู่กลางแดดกลางฝน

ส่งเอกสารมากจนหน่วยราชการรับไม่ไหว

เป็นไงครับ สรุปแล้วท่านตอบได้ไหมว่า ข้อความไหนที่เรียกว่าเป็นสันติวิธีและข้อความไหนไม่ใช่ สำหรับผมเดินมึนออกจากห้องมาเลย อิอิ

« « Prev : ๒๑. สันติวิธีในสังคมไทยการรับรู้และความเข้าใจ ๑

Next : ๒๓. รัฐสวัสดิการกรณีศึกษากลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

22751 ความคิดเห็น