น้ำใจสู่..ชุมชนบ้านกงตอ

อ่าน: 167350

ชุมชนบ้านกงตอ

 

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมาพระเทพสุธี (สงคราม อสิญาโณ) เจ้าคณะภาค 16 พร้อมด้วย พระครูปริยัติคุณาวุฒิ (พระมหาเสรี) เจ้าอาวาสวัดกลางใหม่ และพระครูวิสุทธิวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว  พร้อมรถบรรทุกของแห้ง น้ำดื่ม ข้าวกระป๋องสำเร็จรูป kaosook (เปิดทานได้ทันที)  ทั้งจากสภากาชาดไทยและจากการบริจาคจากผู้มีน้ำใจ จำนวน 5 คัน ครั้งนี้ได้แวะเยี่ยมวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม คือวัดวังไทร และไปมอบของให้ชาวบ้านที่ ชุมชนบ้านกงตอ และบ้านปากฮาย  อ.กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

บน ส่วนหนึ่งของของที่นำไปแจก

 

 ข้าวกระป๋องสำเร็จรูป (kaosook) ลังละ 48 กระป๋อง มีกับข้าวพร้อมทาน meepole ยังไม่ได้ลองเปิดเลยไม่ได้รู้รสชาด ก็คงอร่อย

ชุมชนดังกล่าวถูกตัดขาดทั้ง 4 เส้นทาง จึงไม่สามารถมีใครเข้าถึงได้ (นักข่าวเลยไม่ได้เข้ามา) ในช่วงที่ผ่านมาแม้น้ำจะลดแห้งแล้วแต่ถนน สะพานพังถูกกัดเซาะจนขาดหลายช่วง และชาวบ้าน อบต กำนัน ผู้ใหญ่ ลูกบ้าน ทหาร มาช่วยกันซ่อมแซมทำให้ได้เส้นทางเชื่อมต่อออกสู่ภายนอกได้ชั่วคราว คณะสงฆ์ทราบข่าวนี้จึงได้นำของไปแจกถึงที่ เพราะหากจะดูความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วเชื่อว่าหากงบถึง แรงงานถึง ไม่ต่ำกว่าครึ่งปีจึงจะสามารถเข้าที่เข้าทางได้อีกครั้ง ลองดูจากภาพบางส่วน

 สะพานขาด น้ำเซาะถนนหายไป ที่เห็นกว้างเป็นลานเดิมเป็นถนนตอนนี้ถูกเซาะหายไป ทรายก็มาถมเต็มอีก

 

น้ำเซาะสะพานขาด รถต้องค่อยๆไต่บนสะพานไม้ที่ใช้ชั่วคราว

ชุมชนกงตออยู่ค่อนข้างลึก เข้าไปจากปากทางที่ไกลแล้วยังต้องเข้าไปผ่านถนนแคบมากเป็นลูกรังแบบดินเหนียว ก็ภาวนาว่าฝนจ๋าอย่าตกเพราะลื่นแน่ และก็อย่ามีรถสวน เพราะสวนไม่ได้จริงๆ ไม่มีที่เหลือ ที่สำคัญคือไม่น่าเชื่อว่ามีป่าหุบเขาที่สวยแบบนี้ซ่อนอยู่  บางช่วงมองลงไปแล้วเสียวไส้แต่ต้องเชื่อใจมือขับจริงๆงานนี้ ระยะทางเพียง 12 กม.ใช้เวลาประมาณ 50 นาที  และต้องมีคนมานำทางเข้าไป สองข้างทางเป็นป่าสวยมากแม้ว่าจะเป็นสวนยางเกือบหมด ทางแคบมาก ทางเสียหายเพราะน้ำเซาะไต่เขาขึ้น ลงเขา หวาดเสียวหลายตอน คันนำต้องค่อยๆถอยกลับมาตั้งหลักใหม่อยู่ช่วงหนึ่ง เพราะของหนักมาก

 

ท่านเจ้าคณะภาค 16 ก็ได้ให้โอวาทและกำลังใจกับชาวบ้านก็ช่วยทำให้เขามีกำลังใจและความสุขขึ้น

 

บน  ทุกคนที่มาได้รับของแจกจากน้ำใจทุกฝ่าย    

ล่าง  ที่เห็นมารุมมาล้อมท่านพระครูวุฒิฯ เพราะท่านแจกรองเท้า สีสารพัดลาย จ๊าบ!มาก ถูกใจชาวบ้านจริงๆรายการนี้ มีหลายขนาด เลือกกันแบบตลาดนัดเลย

 

  

บน รับของเสร็จ มีความสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ อานิสงค์เกิดแล้วแก่ท่านผู้มีน้ำใจทุกรูป/คน

ล่าง  ชาวบ้านร้องขอ รูปหมู่ ตามระเบียบเป็นที่ระลึกและเป็นสิริมงคลที่พระผู้ใหญ่เมตตาเดินทางมาแจกด้วยตนเอง

ชุมชนบ้านกงตอมีประมาณ 100 ครัวเรือนมีคนประมาณ 300 กว่าคนอาชีพหลัก ตัดยางอย่างเดียว ไปถึงชาวบ้านมาประมาณ 100 กว่าคน หลายคนมาพูดกับ meepole ว่าดีใจมากและขอบคุณจริงๆ บางคนบ้านหายไปทั้งหลัง แต่ไม่มีใครเข้าถึง ช่วงแรกทางถูกตัดขาดหมดทั้ง 4 ทาง เขาบอกว่าชาวบ้านช็อกกันเป็นส่วนใหญ่เพราะไม่เคยมีปรากฏการณ์น้ำหลากท่วมในฤดูร้อน ชั่วอายุปู่ย่าไม่มี เลยไม่ได้เตรียมตัวไม่ได้ระวังและไม่ได้เก็บเตรียมอาหาร และตอนนี้แม้ว่าราคายางจะดีแต่ก็กรีดยังไม่ได้ ตลอดทางที่ผ่านก็พอเข้าใจเพราะเห็นทราย  ดินเหนียวจำนวนมากมายไม่รู้มาจากไหน ถมในสวนยางเหมือนทะเลทรายที่มีต้นไม้ขึ้น ซึ่งถ้าไม่รีบเอาดินและทรายออกโดยเร็วต้นไม้มากมายเหล่านั้นคงตายหมด และมีแนวโน้มสูง เพราะชาวบ้านไม่ได้มีเครื่องมืออะไรที่จะไปช่วยตักดินมหาศาลเหล่านั้น บ้านก็ต้องซ่อมทำก่อน ตอนนี้บางรายบ้านพัง ก็ทำเพิงอยู่ไปก่อน เท่าที่เห็นเขาก็มีกำลังใจที่จะต่อสู้ life must go on ในที่สุด

เดินทางกลับ มีคนนำทางพาออกไปอีกทางที่ไม่ต้องผ่านทางชันหุบเขามากนัก (คิดในใจตั้งแต่แรกแล้วว่าขออย่าต้องกลับทางเดิมเลยนะ) ผ่านออกมาทางบ้านปากฮาย คนนำทางพาแวะตรงสะพานที่ขาด น้ำแรงมาก มีบ้านสวยหลังใหญ่พัดหายไปไม่เหลืออะไรทั้งหลังมีแต่กองทราย พระอาจารย์ก็แจกชาวบ้านที่เหลือหลังเดียวที่บ้านพังหมดแต่สร้างใหม่แบบที่เห็นในรูป

  

 ที่เห็นเป็นเหมือนแม่น้ำจริงๆคือคลองเล็กๆเดิมที่ถูกน้ำขนทรายมาถมจนเป็นลานกว้าง และแนวน้ำที่เห็นนั่นเคยเป็นถนน แนวถนนกลายเป็นตรงที่น้ำเซาะ

 

 บน  ที่พระท่านยืน มีบ้านหลังใหญ่ที่หายไปหมด          ขวา ชาวบ้านที่เหลืออยู่หลังเดียวที่บ้านพังหมด แต่สร้างใหม่แบบที่เห็นในรูป

 

บนซ้าย  บันทึกทำป้ายไว้บนต้นมะพร้าวแสดงระดับน้ำกว่า 2 เมตรเมื่อ 28 มีค. 54 บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ได้เลย

บนขวา เจ้าคณะภาค16 มอบอาหารข้าวกระป๋องให้ทหารอีก (อันนี้ไม่ได้ทราบมาก่อน แต่ดีใจมากที่ได้มอบให้รั้วของชาติ)

 

 ทหารน่ารักกกกกกกก มากกกกกกก สร้างบ้าน สร้างทาง กิน นอน กันกลางป่า ในหมู่บ้านกันเลย

ตรงนี้ทราบว่ามีหน่วยทหารมาช่วยซ่อม สร้างบ้านให้ชาวบ้านอีกกว่า 30 นาย ท่านเจ้าคณะภาค16 เลยย้อนกลับเอาอาหารข้าวกระป๋องไปให้อีก ทหารขอพระเครื่อง พระอาจารย์ไม่ได้เอาติดตัวไป คราวหน้าคงต้องติดตัวติดรถไปบ้างแล้ว

วกกลับมาชาวบ้านนำทางต่อ ใช้เวลาเกือบชั่งโมงเช่นกัน แต่ทางไม่ถูกน้ำเซาะมากเหมือนทางที่มา

บน  แวะเยี่ยมวัดวังไทร มอบอาหารให้เจ้าอาวาส (ซ้าย) 

เราก็คงได้แต่ภาวนาให้ชาวบ้านเหล่านั้น เขาทุกข์น้อยกับสิ่งที่เป็น และมีความสุขกับสิ่งที่มี เริ่มต้นชีวิตหลังการฟื้นฟูจากนี้  ด้วยใจที่เข้มแข็ง เพราะทุกคนที่มาช่วยได้แค่ให้กำลังใจยามยาก แต่การสู้ชีวิตต่อต้องอาศัยความเข้มแข็งอดทน และความรักในครอบครัว ชุมชนที่มีต่อกัน

« « Prev : กันไว้ก่อนดีกว่าเจ็บป่วยจาก..เชื้อโรคในบ้าน2

Next : เห็นแล้วอดคิดไม่ได้..ต้องเขียน » »