กันไว้ก่อนดีกว่าเจ็บป่วยจาก..เชื้อโรคในบ้าน2

โดย meepole เมื่อ 28 April 2011 เวลา 9:25 pm ในหมวดหมู่ ชีวิตและสุขภาพ, เรื่องทั่วไปๆ สบายๆ #
อ่าน: 199950

กันไว้ก่อน ดีกว่าเจ็บป่วยจาก..เชื้อโรคในบ้าน 2

การที่ให้รู้ว่าในแต่ละส่วนของบ้านมีเชื้อแบคทีเรียหลากหลายชนิด มีทั้งอันตรายบ้าง ไม่อันตรายบ้าง  ผู้เขียนไม่ได้ต้องการเพิ่มความเครียดในการที่จะให้กลัวเชื้อโรคจนเกินเหตุ  แต่เพียงจะช่วยให้ผู้อ่านเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เตือนตัวเองให้เอาใจใส่สุขภาพและความสะอาด เรื่องเล็กๆ จะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะหากร่างกายเราอ่อนแอก็จะอาจก่อให้เกิดโรคได้ … อย่าคิดว่าเจ้าตัวเล็กๆที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจะมีปัญญาทำอะไรเราได้ เพราะหลายๆคนเมื่อเจ็บป่วยร่างกายอ่อนแอ เราจะได้ยินบ่อยๆว่า ตาย เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด (โรคฮิตค่ะ)

ก่อนหน้านี้ได้เล่าเรื่องเชื้อโรค แบคทีเรีย ในห้องน้ำ ในอุปกรณ์ เครื่องใช้บางชนิด ลืมไปอีกเรื่องจึงขอเอามาเพิ่มเติมก่อนจะเดินไปที่ครัว นะคะ

ห้องน้ำ (ต่อ)

ในห้องน้ำยังมีสิ่งหนึ่งที่สามารถติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิต และบางคนที่ติดเชื้อไป ก็คิดไม่ถึงว่าอาจจะมาจากสิ่งนี้ นั่นคือยาสีฟันและแปรงสีฟัน

ลองอ่านข่าวนี้แล้วพิจารณานะคะLarge_t42

ที่มาภาพ: gfrendz.com

ระวังยาสีฟันปลอม มีแบคทีเรีย-เชื้อโรคเจือปนอยู่ พบว่าผลิตในประเทศจีนและตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”

อันนี้แน่นอนเพราะยาสีฟันไม่ไช่ยาฆ่าเชื้อที่จะไม่มีเชื้อโรค ดังนั้นเวลาใช้เสร็จไม่ควรเปิดหลอดค้างไว้ หรือปิดไม่สนิท เพราะคุณอาจได้เชื้ออื่นๆแถมไปโดยไม่จำเป็น

ภัยอันตรายจากแปรงสีฟันเก่า บ่อเกิดโรคร้ายคาดไม่ถึง!Large_t11

ที่มาภาพ: sirjuve.blogspot.com

เจมส์ ซอง นักเคมีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐฯ ระบุว่าแปรงสีฟันที่ใช้งานนานเกินไป ถือเป็นหนึ่งในวัตถุอันตรายในครัวเรือน และก่อปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขข้อ และการติดเชื้อเรื้อรัง อาจเกี่ยวพันกับแปรงสีฟันที่ไม่ถูกสุขอนามัยนี้ เพราะแบคทีเรียจำนวนมากจะซุกซ่อนอยู่ในแปรงสีฟัน และแบคทีเรียเหล่านี้เดินทางเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ใช้โดยตรงผ่านรอยแผลเล็กๆ ที่เหงือก แบคทีเรียเหล่านี้บางส่วนเกี่ยวข้องกับการอุดตันของเส้นเลือดด้วย

นอกจากนี้ผลการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ พบว่าแปรงสีฟันทั่วๆ ไปเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรคประมาณ 10 ล้านตัว ซึ่งรวมถึงแบคทีเรียอันตรายอย่างเช่น Streptococcus sp., E. coli และ Candida sp.

ความเสี่ยงที่แบคทีเรียในช่องปากจะเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งงานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Porphyromonas gingivalis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปริทันต์ พบอยู่ในเส้นเลือดที่อุดตันรุนแรง

จากการศึกษาของศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ระบุว่าแบคทีเรียในช่องปากของอาสาสมัครที่เป็นโรคหัวใจ ไปปรากฏอยู่ในหลอดเลือดหัวใจเช่นเดียวกัน แบคทีเรียนี้ยังเกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนด และการที่ทารกมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายก็ควรใส่ใจนะคะ

 

การใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่นอาจก่ออันตรายร้ายแรงได้

ดร.ทาเร็ก ไอดริส ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมตกแต่งจากฮาร์เลย์ สตรีท ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ บี และซี ซึ่งติดต่อได้ในแปรงสีฟัน และสปอร์ของไวรัสตับอักเสบบี สามารถอยู่รอดได้นานหลายเดือน

สมาคมทันตกรรมแห่งอังกฤษจึงได้ย้ำว่าอันตรายยิ่งร้ายแรงขึ้น หากมีการใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น หลายคนยังทิ้งแปรงสีฟันไว้ในแก้วเดียวกับคนอื่น ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคติดต่อถึงกันหากแปรงสีฟันสัมผัสกัน

 ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำการปฏิบัติดังนี้

1.ให้เปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน (อันนี้ดูตามเหมาะสม บางคนใช้จนลืมไปเลย และควรล้างแปรงให้สะอาดก่อนเก็บ ก็ลองสังเกตุที่โคนขนแปรงดูนะคะว่าสกปรกหรือไม่ ถ้ามีคราบไม่ว่าสีอะไรติด ก็ควรทิ้งเถอะนะคะ ค่ายาแพงกว่าค่าแปรงค่ะ)

Large_t2 ที่มาภาพ: psfk.com

 

2.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น (ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดไม่ไช่แปรงใครก็ใช้ได้)

3.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง (เพราะจะทำให้เหงือกเป็นแผล เพราะบางครั้งเราแปรงแรงๆแล้วมีเลือดออกนั่นล่ะค่ะ จะกลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด)

4. หาปลอกใส่แปรงสีฟัน (อันนี้ไม่อยากแนะนำเพราะบางทีมันชื้นมากเกินไป แม้ว่ามีรูระบายก็เถอะ ไม่เหมาะกับบ้านเรา แค่วางแปรงแยกห่างๆกันก็พอค่ะ)

5. ต้องแยกแปรงสีฟันออกจากกันหากมีโรคติดต่อ (อันนี้จำเป็นมากค่ะ แปรงใส่แก้วของใครก็คนนั้น และแยกห่างกันด้วย)

Large_t3ที่มาภาพ: ideasforhouses.com

ทั้งหมดนี้คงไม่ทำให้เครียดเกินไปนะคะ เพียงแค่เดินเข้าห้องน้ำไปแวะดูเจ้าแปรงสีฟันหน่อย ถ้าเขาสกปรกแล้วก็ say good bye!  (มีวิธีทำความสะอาดนะคะ แต่ไม่แนะ เพราะคนเขียนก็ไม่ทำ) ใช้วิธี bye bye method อย่างเดียวค่ะ หุ หุ  :)

« « Prev : กันไว้ก่อน ดีกว่าเจ็บป่วยจาก …เชื้อโรคในบ้าน

Next : น้ำใจสู่..ชุมชนบ้านกงตอ » »