กันไว้ก่อนดีกว่าเจ็บป่วยจาก..เชื้อโรคในบ้าน2
อ่าน: 199950กันไว้ก่อน ดีกว่าเจ็บป่วยจาก..เชื้อโรคในบ้าน 2
การที่ให้รู้ว่าในแต่ละส่วนของบ้านมีเชื้อแบคทีเรียหลากหลายชนิด มีทั้งอันตรายบ้าง ไม่อันตรายบ้าง ผู้เขียนไม่ได้ต้องการเพิ่มความเครียดในการที่จะให้กลัวเชื้อโรคจนเกินเหตุ แต่เพียงจะช่วยให้ผู้อ่านเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เตือนตัวเองให้เอาใจใส่สุขภาพและความสะอาด เรื่องเล็กๆ จะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะหากร่างกายเราอ่อนแอก็จะอาจก่อให้เกิดโรคได้ … อย่าคิดว่าเจ้าตัวเล็กๆที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจะมีปัญญาทำอะไรเราได้ เพราะหลายๆคนเมื่อเจ็บป่วยร่างกายอ่อนแอ เราจะได้ยินบ่อยๆว่า ตาย เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด (โรคฮิตค่ะ)
ก่อนหน้านี้ได้เล่าเรื่องเชื้อโรค แบคทีเรีย ในห้องน้ำ ในอุปกรณ์ เครื่องใช้บางชนิด ลืมไปอีกเรื่องจึงขอเอามาเพิ่มเติมก่อนจะเดินไปที่ครัว นะคะ
ห้องน้ำ (ต่อ)
ในห้องน้ำยังมีสิ่งหนึ่งที่สามารถติดเชื้อและเป็นอันตรายถึงชีวิต และบางคนที่ติดเชื้อไป ก็คิดไม่ถึงว่าอาจจะมาจากสิ่งนี้ นั่นคือยาสีฟันและแปรงสีฟัน
ที่มาภาพ: gfrendz.com
“ระวังยาสีฟันปลอม มีแบคทีเรีย-เชื้อโรคเจือปนอยู่ พบว่าผลิตในประเทศจีนและตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”
อันนี้แน่นอนเพราะยาสีฟันไม่ไช่ยาฆ่าเชื้อที่จะไม่มีเชื้อโรค ดังนั้นเวลาใช้เสร็จไม่ควรเปิดหลอดค้างไว้ หรือปิดไม่สนิท เพราะคุณอาจได้เชื้ออื่นๆแถมไปโดยไม่จำเป็น
ภัยอันตรายจากแปรงสีฟันเก่า บ่อเกิดโรคร้ายคาดไม่ถึง!
ที่มาภาพ: sirjuve.blogspot.com
เจมส์ ซอง นักเคมีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐฯ ระบุว่าแปรงสีฟันที่ใช้งานนานเกินไป ถือเป็นหนึ่งในวัตถุอันตรายในครัวเรือน และก่อปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขข้อ และการติดเชื้อเรื้อรัง อาจเกี่ยวพันกับแปรงสีฟันที่ไม่ถูกสุขอนามัยนี้ เพราะแบคทีเรียจำนวนมากจะซุกซ่อนอยู่ในแปรงสีฟัน และแบคทีเรียเหล่านี้เดินทางเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ใช้โดยตรงผ่านรอยแผลเล็กๆ ที่เหงือก แบคทีเรียเหล่านี้บางส่วนเกี่ยวข้องกับการอุดตันของเส้นเลือดด้วย
นอกจากนี้ผลการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ พบว่าแปรงสีฟันทั่วๆ ไปเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรคประมาณ 10 ล้านตัว ซึ่งรวมถึงแบคทีเรียอันตรายอย่างเช่น Streptococcus sp., E. coli และ Candida sp.
ความเสี่ยงที่แบคทีเรียในช่องปากจะเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งงานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Porphyromonas gingivalis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปริทันต์ พบอยู่ในเส้นเลือดที่อุดตันรุนแรง
จากการศึกษาของศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ระบุว่าแบคทีเรียในช่องปากของอาสาสมัครที่เป็นโรคหัวใจ ไปปรากฏอยู่ในหลอดเลือดหัวใจเช่นเดียวกัน แบคทีเรียนี้ยังเกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนด และการที่ทารกมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายก็ควรใส่ใจนะคะ
การใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่นอาจก่ออันตรายร้ายแรงได้
ดร.ทาเร็ก ไอดริส ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมตกแต่งจากฮาร์เลย์ สตรีท ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ บี และซี ซึ่งติดต่อได้ในแปรงสีฟัน และสปอร์ของไวรัสตับอักเสบบี สามารถอยู่รอดได้นานหลายเดือน
สมาคมทันตกรรมแห่งอังกฤษจึงได้ย้ำว่าอันตรายยิ่งร้ายแรงขึ้น หากมีการใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น หลายคนยังทิ้งแปรงสีฟันไว้ในแก้วเดียวกับคนอื่น ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคติดต่อถึงกันหากแปรงสีฟันสัมผัสกัน
ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำการปฏิบัติดังนี้
1.ให้เปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน (อันนี้ดูตามเหมาะสม บางคนใช้จนลืมไปเลย และควรล้างแปรงให้สะอาดก่อนเก็บ ก็ลองสังเกตุที่โคนขนแปรงดูนะคะว่าสกปรกหรือไม่ ถ้ามีคราบไม่ว่าสีอะไรติด ก็ควรทิ้งเถอะนะคะ ค่ายาแพงกว่าค่าแปรงค่ะ)
2.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น (ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดไม่ไช่แปรงใครก็ใช้ได้)
3.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง (เพราะจะทำให้เหงือกเป็นแผล เพราะบางครั้งเราแปรงแรงๆแล้วมีเลือดออกนั่นล่ะค่ะ จะกลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด)
4. หาปลอกใส่แปรงสีฟัน (อันนี้ไม่อยากแนะนำเพราะบางทีมันชื้นมากเกินไป แม้ว่ามีรูระบายก็เถอะ ไม่เหมาะกับบ้านเรา แค่วางแปรงแยกห่างๆกันก็พอค่ะ)
5. ต้องแยกแปรงสีฟันออกจากกันหากมีโรคติดต่อ (อันนี้จำเป็นมากค่ะ แปรงใส่แก้วของใครก็คนนั้น และแยกห่างกันด้วย)
ทั้งหมดนี้คงไม่ทำให้เครียดเกินไปนะคะ เพียงแค่เดินเข้าห้องน้ำไปแวะดูเจ้าแปรงสีฟันหน่อย ถ้าเขาสกปรกแล้วก็ say good bye! (มีวิธีทำความสะอาดนะคะ แต่ไม่แนะ เพราะคนเขียนก็ไม่ทำ) ใช้วิธี bye bye method อย่างเดียวค่ะ หุ หุ :)
« « Prev : กันไว้ก่อน ดีกว่าเจ็บป่วยจาก …เชื้อโรคในบ้าน
Next : น้ำใจสู่..ชุมชนบ้านกงตอ » »