นาฬิกาชีวิต *
อ่าน: 18131.00-3.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ
ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรคทำให้
หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว
ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endorphin) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหารเพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว
3.00-5.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด
ควรตื่นขึ้นมาสูดอากาศรับแดดตอนเช้า ผู้ที่ตื่นช่วงนี้ประจำ ปอดจะดี
ผิวดี และเป็นคนมีอำนาจในตัว???
5.00-7.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่
ควรถ่ายให้เป็นนิสัย คนเรามักไม่ตื่นกันตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาที่ลำไส้ต้องบีบ
อุจจาระลง เมื่อไม่ตื่นจึงบีบขึ้น เมื่อไม่ถ่ายตอนเช้าลำไส้ใหญ่จึงรวน
แล้วจะมีอาการปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อน แล้วจะนอนกรนในที่สุด
7.00-9.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
กินข้าวเช้าตอนนี้จะดี กระเพาะแข็งแรง ถ้ากระเพาะอ่อนแอจะทำให้เป็นคน
ตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย ถ้าไม่กินข้าว
เช้าอุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็นถ้าถ่ายออกหมดจะไม่มี
กลิ่นตัวเท่าไหร่
9.00-11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม
ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย ทำหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง
ควบคุมไขมัน คนที่ปวดหัวบ่อยมักมาจากม้าม อาการเจ็บชายโครงมาจาก
ม้ามกับตับ ม้ามโตจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง
สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ม้ามชื้น อาหารแและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพ
เป็นไขมัน ทำให้อ้วนง่าย คนที่หลับช่วง 9.00-11.00 ม้ามจะอ่อนแอ
ม้ามยังโยงไปถึงริมฝีปากคนที่พูดมากช่วงนี้ม้ามจะชื้น ควรพูดน้อยกินน้อย
ไม่นอนหลับ ม้ามจะแข็งแรง
11.00-13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
หัวใจจะทำงานหนักช่วงนี้ ให้หลีกเลี่ยงความเครียด หรือใช้ความคิดหนัก
หาทางระงับอารมณ์ไว้
13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
**ควรงดกินอาหารทุกประเภท** เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน
ลำไส้เล็กทำหน้าที่ดูดสารอาหารที่เป็นน้ำ เพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์
สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง
15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
จะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้ควร
ทำให้เหงื่อออก จะออกกำลังกาย หรืออบตัวกระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
การอั้นปัสสาวะบ่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทำให้เหงื่อเหม็น
17.00-19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต
ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนตอนนี้ ถ้าง่วงแสดงว่าไตเสื่อม
ยิ่งหลับแล้วเพ้อ อาการยิ่งหนัก
19.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงนี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ หัวเราะ
21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลาของระบบความร้อนของร่างกาย
ต้องทำร่างกายให้อุ่น ห้ามอาบน้ำเย็นเวลานี้จะเจ็บป่วยได้ง่าย ช่วงนี้อย่า
ตากลมเพราะลมมีพิษ
23.00-1.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี
เป็นถุงสำรองน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะใดขาดน้ำ จะดึงมาจากถุงน้ำดี
ทำให้ถุงน้ำดีข้น อารมจะฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวมปวดฟัน นอนไม่หลับ
ตื่นกลางดึก ตอนเช้าจะจาม ถุงน้ำดีจะโยงถึงปอดจะปวดศีรษะข้างเดียวหรือ
สองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23.00 น.