สามก๊ก ฉบับเหม็นโฉ่ว บทที่๑

Posted กรกฏาคม 1st, 2009 by bengnaja

“ขุนนางถือราษฎรดั่งหนึ่งอริราชศัตรู ขูดรีดภาษีอากรโหดร้ายยิ่งกว่าเสือ”

ถ้อยบันทึกวรรคหนึ่งในพงศาวดารจีนที่บรรยายความโหดร้าย ความทุกข์ยากของประชาชน เหล่าขุนนางที่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนประเทศชาติ มีหน้าที่ปัดเป่าความทุกข์ยากสาหัสของประชาชน กลับกลายเป็นผู้นำมาซึ่งความทุกข์ยากสาหัสของประชาชน เคยมีคำกล่าวว่า ฮ่องเต้ก็คือเรือ ประชาชนก็คือน้ำ น้ำทำให้เรือทรงตัวอยู่ได้แต่น้ำก็จมเรือได้เฉกเช่นกัน ในยุคปลายราชวงศ์ฮั่นแม้ว่าน้ำพยายามจะคว่ำเรือแต่ก็คว่ำไม่ได้ เพราะเหตุใดกัน? เหม็นโฉ่วจึงอยากเพิ่มคำว่า ขุนนางคือฝีพาย แม้ว่าน้ำเชี่ยวกราดเพียงใดถ้าฝีพายดีก็จะนำพาเรือลำนั้นฝ่าคลื่นลมไปได้ แต่ถ้าเรือลำนั้นมีรูรั่ว พุ เกิดรอยซึมขึ้นมา ฝีพายที่ดีก็จะอุดรอยรั่วนั้นได้ แต่หากรอยรั่วนั้นยากเกินเยียวยารักษาไว้ เรือลำนั้นก็จะจมลง ไม่มีทางที่จะงมขึ้นมาได้อีกครั้ง….

เหม็นโฉ่วเองก็อยากฝากไปถึงผู้ปกครองทั้งหลาย ข้าราชการทุกๆท่าน เรือที่ชื่อว่าประเทศไทยยังคงต้องลอยลำต่อไป เหม็นโฉ่วเองก็เป็นเพียงน้ำหยดเล็กๆหยดหนึ่งที่จะช่วยประคับประคองเรือลำนี้ แม้ว่าคลื่นน้ำจะแรงเพียงไหน ถ้าหากฝีพาย และพันท้ายเรือ ช่วยกันเหม็นโฉ่วเชื่อว่าฟ้าหลังฝนนั้นดีเสมอ และไม่ว่ายังไงน้ำก็ยังเป็นน้ำ น้ำจะรักษาระดับของตัวเอง แม้จะมีน้ำเสียบ้างแต่ยังไงน้ำที่ดีกว่าก็จะเข้าไปสลายน้ำเสียอย่างแน่นอน แต่ฝีพายจะทำอะไรจะพายอย่างไรก็ให้นึกถึงน้ำด้วย อย่าทวนน้ำนัก

นับตั้งแต่เกาจู่เล่าปังสถาปนาราชวงศ์ฮั่นมา ก็นับได้ว่าความวุ่นวายของราชสำนักตั้งแต่ยุคพระเจ้าเลนเต้เป็นต้นมาเสื่อมโทรม อย่างที่สุด รัชสมัยพระเจ้าฮวนเต้ พระองค์ไม่มีรัชทายาทจะให้สืบไว้ซึ่งราชบัลลังค์ จึงไปของเด็กชายตัวน้อยๆ คนหนึ่งมารับเลี้ยงไว้เป็นลูกบุญธรรม เด็กน้อยนั้นก็คือเลนเต้ จะนับได้ว่าราชวงศ์ฮั่นนั้นที่สืบสายเลือดมาจากเล่าปังทางตรงก็คงจะสิ้นบุญลงไป แต่ก็คงไว้แต่ในนาม พระเจ้าเลนเต้แทนที่จะสำนึกคุณชาติกลับทำตัวเป็นดั่งหมาป่าหิวโหย เอาแต่เสวยสุข และเปิดทางซื้อขายตำแหน่งขุนนางอย่างเปิดเผย เบื้องหลังความวิปริตของราชสำนักนั้นก็คงไม่พ้น ก.ส.ข.ท.ก.ฮ. ชื่อเต็มๆคือ กลุ่มสิบขันทีใกล้ชิดฮ่องเต้ (ไม่รู้จะย่อทำไม??) ตัวเลนเต้เองก็ยังไม่รู้ตัวว่าความหายนะกำลังคลืบคลานเข้ามาเอาแต่ร่ำสุรา นารี ก.ส.ข.ท.ก.ฮ. ก็เพ็ดทูลแต่สิ่งดีๆว่าอาณาประชาราษฏร์เป็นสุข ไพร่ฟ้าหน้าใส….

….

แผ่นดินวุ่นวายไร้เสาค้ำฟ้า

สงสารก็แต่เหล่าปวงประชา

บ้านเมืองฉิบหายวุ่ยวานหนักหนา

ตี้หลงสุราน่าสงสารจริง

….

 

….เลนเต้เอ๋ยเลนเต้ เจ้าเกิดมาเพื่อเสวยบุญจริงๆ….

 

 

“อันผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

แม้นมิพลีตนรับใช้ประชาชนด้วยความเสียสละ

เชื่อฟังแต่คำคนถ่อยโฉดเขลา เฝ้าแต่หาความสุขสำราญ

บ้านก็จะไม่เป็นบ้าน

เมืองก็จะไม่เป็นเมือง”

พิชัยสงครามสามก๊ก

สังข์ พัธโนทัย

อย่างที่ได้ยกกล่าวไว้ เมื่อผู้ปกครองอยู่ใต้อาณัติของคนโฉด บ้านก็จะไม่เป็นบ้าน เมืองก็จะไม่เป็นเมือง เลนเต้ไม่สนราชกิจ ปล่อยให้ ก.ส.ข.ท.ก.ฮ. บริหารบ้านเมือง ตงฉินคนไหนกล่าวทูลเตือนพระสติที่ค่อนข้างมีจำกัดของพระองค์ก็มักจะไม่ได้กลับไปนอนบ้านอีกเลย ทำให้ตงฉินที่เหลือไม่ค่อยกล้าพูดจาเพราะว่าไม่อยากฝากชื่อในประวัติศาสตร์ว่าตายเพราะเตือนสติฮ่องเต้ นับแต่บัดนั้นมาขีนทีทั้งสิบก็เหิมเกริมยิ่งๆขึ้นกว่าแต่เก่า…

กลุ่มสิบขันทีใกล้ชิดฮ่องเต้ประกอบไปด้วย เทาเจียด๑ เตียงตง๑ เตียวเหยียง๑ ฮองสี๑ เหาลำ๑ เทาสิด๑ เห้หุย๑ กุยเสง๑ เทียควง๑ เทาเจียดเป็นหัวหน้ากลุ่ม ใกล้ชิดมากขนาดเลนเต้เรียกว่าพ่อ

ขุนนางตงฉินที่ฝากชื่อในประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกไว้นั้น เช่นเตาบูและตันผวน ทั้งสองเป็นขุนนางผู้ใหญ่ คิดการล้างบางกลุ่มขันที แต่เทาเจียดรู้ความเข้าเสียก่อน เตาบูและตันผวนจึงโดนประหาร

ครั้นเมื่อพระเจ้าฮ่องเต้มิได้ทรงอยู่ในศีลธรรมอันดีแล้วไซร้

พระเทวดาประจำกรุงจีนจึงสำแดงซึ่งอานุภาพ

เพื่อเป็นการเตือนพระเจ้าฮ่องเต้

ครั้นบ้านไม่เป็นบ้าน เมืองไม่เป็นเมือง อาเพศจึงเกิด ครั้งหนึ่งเลนเต้ออกว่าราชการ พลันก็บังเกิดพายุฝนห่าใหญ่ มีงูเขียวตกมาพันที่ขาพระเก้าอี้ ในบัดดลงูเขียวก็กลายหายไปเสียเฉยๆ แล้วบังเกิดเป็นอสุนีบาต และลูกเห็บ ทำลายบ้านเมืองในพระนครเสียย่อยยับ อีกสี่ปีให้หลังเกิดพสุธาไหวบ้านเมืองพินาศ อาเพศไก่ตัวเมียกลายเป็นตัวผู้ ภูเขาใหญ่ทลายลง แม้แต่ในพระราชวังหลวงก็บังเกิดควันดำพวยพุ่งจากพระตำหนัก เกิดรุ้งตกในพระราชวังก็มี

เลนเต้ปริตวิตกหนักจึงถามขุนนางทั้งปวงว่าต้องทำอย่างไร ขุนนางชื่อยีหลงทูลว่าบ้านเมืองเป็นเช่นนี้เพราะขันทีเป็นเหตุ เทาเจียดทราบความจึงใส่ความปลดยีหลงออกจากราชการ

นับวันเริ่มเสื่อมโทรม นับวันเริ่มถดถอย ราชวงศ์ฮั่นของพระเจ้าเล่าปังเสมือนหนึ่งแสงจากเทียนดวงน้อยที่มีลมเบาๆพัดผ่านก็จะมอดดับลง 

………..


2 Responses to: “สามก๊ก ฉบับเหม็นโฉ่ว บทที่๑”

  1. Lin Hui responds:
    Posted: กรกฏาคม 1st, 2009 at 7:37 (เย็น)

    อาม่า มาอ่านแล้ว นะเหม็นโฉ่ว ช่างเปรีบเปรยแท้ๆ แต่อาม่าชอบ….อิอิอิ

  2. นักการเมี่ยง responds:
    Posted: กรกฏาคม 31st, 2009 at 9:02 (เช้า)

    ชอบ ๆ ๆ รออ่านอีกนะคุณ
    แล้วยิ่งชอบใหญ่กับคำย่อของ ก.ส.ข.ท.ก.ฮ. ทำให้รู้สึกว่า สามก๊กรุ่นนี้ ทันสมัยจริง ๆ 55555
    ( สมัยนี้คำย่อเยอะมากจนไม่รู้ว่าแปลความหมายว่าอย่างไรกันแล้วเนอะ )


Post a Comment

Enter Your Details:


You may write the following basic XHTML Strict in your comments:
<a href="" title=""></a> · <acronym title=""></acronym> · <abbr title=""></abbr>
<blockquote cite=""></blockquote> · <code></code> · <strong></strong> · <em></em>

  • Including a link in your comments will require moderator approval. No Spam please.
  • If you’re a first-time commenter, your reply will be held for moderation. Sorry.
  • Please do not force me to have to edit or remove your comments. No Spam please.
  • Your mature and responsible replies are greatly appreciated by all. Thank you.
Enter Your Comments:

*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word



Note: This is the end of the usable page. The image(s) below are preloaded for performance only.